xs
xsm
sm
md
lg

คันทรี่ กรุ๊ปแนะจับตาสหรัฐฯ ประกาศอาจขึ้นดอกเบี้ย สวนทิศทางไทยไม่พร้อมขึ้นดอกเบี้ย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CGS
บล.คันทรี่ กรุ๊ป หรือ CGS แนะจับตาสหรัฐฯ ประกาศอาจมีความจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ร้อนแรงเกินไป โดยหากพิจารณาจากตัวเลขเศรษฐกิจมีความเป็นไปได้ที่ทางสหรัฐฯ จะปรับขึ้น แต่กับประเทศไทยเชื่อว่าไม่อยู่ในจุดที่พร้อมรับต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นจากเศรษฐกิจที่เปราะบางมาก

นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CGS เปิดเผยว่าจากการระบาดโควิด-19 หากการระบาดทรงตัวอยู่ในระดับ 1-2 พันรายต่อวันคาดว่าไม่มีผลต่อการลงทุนมากนักเนื่องจากอยู่ในคาดการณ์ของตลาดแล้ว ขณะเดียวกัน เชื่อว่าตลาดจะให้น้ำหนักกับความคืบหน้า Vaccine มากกว่า ข้อมูลล่าสุดทางองค์การอาหารและยา (อ.ย.) กำลังอยู่ในขั้นตอนพิจารณาคำขอขึ้นทะเบียน Vaccine ของ Moderna รวมไปถึงมี Vaccine ที่กำลังอยู่ระหว่างยื่นเอกสารเพื่อประเมินการขึ้นทะเบียนได้แก่ Covaxin, Sputnik V ส่วน AstraZeneca ที่ผลิตในไทยจะเริ่มเดือน มิ.ย. ส่วนปัจจัยนอกประเทศถือว่าอยู่ในทิศทางที่ดีไม่ว่าจะเป็น 

1.ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ดี เช่น PMI ภาคการผลิตจากสถาบัน ISM ประจำเดือน เม.ย. อยู่ที่ 60.5 เหนือกว่าระดับ 50 บ่งชี้ถึงการขยายตัวของการผลิต 

2.ราคาน้ำมันดิบที่เริ่มปรับตัวขึ้นรับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของอุปสงค์และเป็นบวกต่อกลุ่มน้ำมันและปิโตรเคมีในตลาดหุ้นไทย ทำให้เราเชื่อว่าทิศทาง SET INDEX สัปดาห์นี้ยังมีลุ้นเดินหน้าขึ้นต่อได้วางกรอบทั้งสัปดาห์ที่ 1,575-1,600 อย่างไรก็ตาม หากผิดไปจากคาดปรับตัวลงเพราะกังวลคลัสเตอร์ใหม่เรากลับมองเป็นโอกาสสะสมจากภาพระยะกลางที่ยังสดใส

สำหรับปัจจัยสัปดาห์นี้ 1 การประชุม กนง. ในวันพุธเราและตลาดคาดที่ประชุมคงดอกเบี้ยที่ระดับ 0.5% มองเรื่องดอกเบี้ยไม่มีผลใดๆ แต่แนะติดตามมุมมองของที่ประชุมเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ 2.ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน Bloomberg ประเมินมี (IVL GPSC) รายงานในสัปดาห์นี้เราคาด IVL จะรายงานกำไรสุทธิโดดเด่นทั้ง QoQ YoY หนุนจากส่วนต่างปิโตรเคมีแข็งแกร่งของ PET, MEG

ส่วนการที่เยลเลน ออกมาพูดว่าอัตราดอกเบี้ยจำเป็นต้องปรับขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ร้อนแรงเกินไป หากพิจารณาจากตัวเลขเศรษฐกิจมีความเป็นไปได้ที่ทางสหรัฐฯ จะปรับขึ้น แต่กับประเทศไทยเราเชื่อว่าไม่อยู่ในจุดที่พร้อมรับต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นจากเศรษฐกิจที่เปราะบางมาก ดังนั้นคาดผลกระทบเรื่องนี้จำกัดต่อตลาดหุ้นไทย แต่ที่มีผลกระทบมองไปยังค่าเงินบาทมีโอกาสอ่อนค่าจากส่วนต่างดอกเบี้ยไทยและสหรัฐฯ ที่สูงขึ้นมองเป็นบวกส่งออก

ทั้งนี้ กลยุทธ์การลงทุนระยะสั้นแนะนำ Global Play เชื่อว่ายังมีโอกาส Outperform อาทิ น้ำมัน (PTT PTTEP) ปิโตรเคมี (IVL PTTGC SCC) เดินเรือ (PSL TTA) และหาก Domestic Play เช่น ค้าปลีก (BJC CPALL CRC) ศูนย์การค้า (CPN) โรงภาพยนตร์ (MAJOR) ปรับฐานแรงจากความกังวลโควิด-19 มองเป็นโอกาสสะสมเช่นเดิมบนสมมติฐานที่เราเชื่อว่าในระยะถัดไปจะฟื้นตัวได้จากการควบคุมที่ดีขึ้นและการกระจาย Vaccine ที่สูงขึ้น

IVL (ซื้อ/ราคาเป้าหมาย 50 บาท) คาดกำไร 1Q21 ของบริษัทจะเห็นการเติบโตเด่นทั้ง QoQ YoY หนุนจากส่วนต่างปิโตรเคมี (PET) และ (MEG) ที่แข็งแกร่งรวมถึงปริมาณขายที่จะสูงขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ส่วนแนวโน้ม 2Q21 สดใสต่อเนื่องหนุนจากส่วนต่างปิโตรเคมีที่แข็งแกร่งของ PET MEG

PTTGC (ซื้อ/ราคาเป้าหมาย 75 บาท) อิงประมาณการกำไร 1Q21 จาก Bloomberg Consensus 9 พันล้านบาท (+40%QoQ) และจากขาดทุน 1Q20 ที่ 8.7 พันล้านบาท กำไรที่เติบโตโดดเด่นเชื่อว่าเป็นผลจากส่วนต่างปิโตรเคมีที่แข็งแกร่ง (HDPE) รวมถึงกำไรจากสต๊อกน้ำมัน


กำลังโหลดความคิดเห็น