หุ้นปิดเช้าลบ 3.37 จุด ตามตลาดต่างประเทศ หลัง PMI จีนชะลอ ขณะที่นักลงทุนขายลดความเสี่ยงก่อนหยุดยาว 4 วัน และเมื่อดัชนีเข้าใกล้ด่าน 1,600 จุด Valuation เริ่มตึงตัว หนุนให้เกิดแรงขายทำกำไรบางส่วนออกมาก่อน สำหรับแนวโน้มการลงทุนในภาคบ่ายคาดตลาดคงจะยังเคลื่อนไหวในแดนลบ
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับลงในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวในแดนลบเช่นเดียวกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส หลังดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือน เม.ย.อยู่ที่ 51.1 ลดลงจาก 51.9 ในเดือน มี.ค.ส่วนดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนเม.ย.อยู่ที่ 54.9 ลดลง 1.4% จาก 56.3 ในเดือน มี.ค.แม้ว่าข้อมูลด้านเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะออกมาดีก็ตาม
ส่วนตลาดบ้านเราจะเข้าสู่วันหยุดยาว 4 วัน ทำให้นักลงทุนบางส่วนขายเพื่อลดความเสี่ยง และเมื่อดัชนีเข้าใกล้ด่าน 1,600 จุด Valuation เริ่มตึงตัวหนุนให้เกิดแรงขายทำกำไรบางส่วนออกมาก่อนในช่วงรอให้มีการปรับเพิ่มประมาณการของบริษัทจดทะเบียนหลังจากที่หลายบริษัทประกาศงบออกมาดี อย่างกลุ่มแบงก์ หุ้น SCC เป็นต้น ซึ่งจะทำให้ Valuation มี room ได้มากขึ้น
ด้านนายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บล.เคทีบีเอสที กล่าวว่า นักลงทุนบางส่วนทยอยลดพอร์ตลงก่อนช่วงวันหยุดระยะยาว และตลาดยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา ทำให้เกิดแรงขายทำกำไรออกมาบ้าง โดยยังมีความกังวลสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19
ทั้งนี้ บ่ายนี้ให้ติดตามแถลงภาวะเศรษฐกิจเดือน มี.ค.64 จากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,587.09 จุด ลดลง 3.37 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.21% มูลค่าการซื้อขายราว 43,594.73 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายศราวุธ กล่าวว่า ตลาดคงจะยังเคลื่อนไหวในแดนลบ แต่ระหว่างทางก็มีโอกาสฟื้นตัวขึ้นได้ พร้อมให้แนวรับ 1,577 จุด ส่วนแนวต้าน 1,594 จุด
ส่วนนายมงคล มองว่า ตลาดคงยังติดลบอยู่เช่นกัน พร้อมให้แนวรับ 1,580 จุด ส่วนแนวต้าน 1,590 จุด