จุดเริ่มต้นขาลงรอบใหม่ / สุนันท์ ศรีจันทรา

แม้การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ระลอกสาม จะรุนแรงและลุกลามในวงกว้าง จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นวันละกว่า 1 พันรายติดต่อกันนับสัปดาห์ โดยยังไม่อาจคาดหมายว่าจะควบคุมการแพร่ระบาดให้อยู่ในวงจำกัดได้เมื่อไหร่

แต่บริษัทโบรกเกอร์หลายสำนักต่างออกมายืนยันว่า ผลกระทบจาก "โควิด-19" ระลอกใหม่จะเกิดขึ้นเพียงระยะสั้น และไม่มีผลกระทบต่อตลาดหุ้นมากนัก โดยคงเป้าหมายดัชนีหุ้นในช่วงปลายปีนี้ต่อไปในระดับสูงกว่า 1,650 จุด

ขณะที่โบรกเกอร์บางแห่งมองโลกสวย ประเมินว่า ดัชนีหุ้นช่วงปลายปีจะพุ่งทะยานไปที่ 1,740 จุด เช่น บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด

นับตั้งแต่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ ตลาดหุ้นแทบไม่ซึมซับรับข่าวร้ายแต่อย่างใด ดัชนีหุ้นแกว่งตัวขึ้นต่อเนื่อง จนจะทะลุ 1,600 จุดอีกครั้ง

แต่สุดท้ายหุ้นก็ต้าน “โควิด-19” ไม่ไหว โดยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นปักหัวลง 11.80 จุด ปิดที่ 1,568.21 จุด

นักลงทุนรายใหญ่ 3 กลุ่มพร้อมใจกันขาย ไม่ว่าจะเป็นกองทุน ต่างชาติ และพอร์ตโบรกเกอร์ มีแต่รายย่อยเท่านั้นที่เข้าไปซื้อ

หุ้นควรจะดิ่งลงนับจากการแพร่ระบาดระลอกใหม่ แต่สาเหตุที่ทะยานขึ้นสวน “โควิด-19” เพราะนักลงทุนรายย่อยเข้ามาซื้อหุ้นพยุงไว้

นักลงทุนรายย่อยในประเทศยังมีสภาพคล่องสูง และไม่มีทางเลือกในการบริหารเงินมากนัก โดยการฝากเงินกับแบงก์อัตราดอกเบี้ยต่ำมาก จะลงทุนด้านอื่นก็มีความเสี่ยงสูง จึงโยกเงินมาในตลาดหุ้น

แรงซื้อของนักลงทุนรายย่อยไหลเข้ามาไม่ขาดสาย แม้จะซื้อหุ้นสุทธิสะสมจากปีที่ผ่านมาและปีนี้รวมเกือบ 3 แสนล้านบาทแล้วก็ตาม แต่ยังพร้อมที่จะช้อนซื้อหุ้นต่อ

การมองโลกสวยของบรรดาโบรกเกอร์ การส่งสัญญาณผิดๆ โดย “เดา” ว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกนี้จะเกิดขึ้นในระยะสั้น และผลกระทบจะอยู่ในวงจำกัด มีส่วนสำคัญที่ทำให้นักลงทุนหลงสถานการณ์ ไม่ได้คำนึงถึงความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดหุ้น

จนอาจแบกรับความเสียหายตามมา เพราะเข้าไปรับซื้อหุ้นในราคาแพงจากต่างชาติที่เทขายไม่หยุด

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยออกบทวิจัยล่าสุด โดยปรับลดอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือจีดีพีปีนี้ลง จากเดิมคาดว่าจะโตประมาณ 2.6% หั่นลงเหลือโตประมาณ 1.6% เนื่องจากผลกระทบจกาการแพร่ระบาดของ “โควิด-19” ระลอกใหม่

จีดีพีที่ชะลอตัวลงย่อมส่งผลต่อบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยผลประกอบการจะชะลอตัวลงตาม ส่วนประมาณการเป้าหมายดัชนีหุ้นจะต้องปรับลดลงตามด้วย

แต่ฝ่ายวิเคราะห์บริษัทโบรกเกอร์ส่วนใหญ่ กลับไม่ให้น้ำหนักกับผลกระทบโควิด-19 ระลอกใหม่มากนัก และยังก้มตามองโลกสวย ยืนเป้าหมายดัชนีหุ้นปลายปีเท่าเดิม มองอัตราการเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ตามประมาณการเดิม

โบรกเกอร์บางสำนักเพ้อฝันว่า ครึ่งปีหลังนักลงทุนต่างชาติจะกลับเข้ามาลงทุน ทั้งที่ไม่มีสัญญาณว่าต่างชาติจะกลับมา และการคาดหมายการกลับมาของนักลงทุนต่างชาติ โบรกเกอร์เดาผิดมาหลายปีแล้ว

ระหว่างฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ของโบรกเกอร์ที่มองโลกสวย กับฝ่ายวิจัยของธนาคารที่ส่งสัญญาณเตือนภัยเศรษฐกิจถดถอย โดยมีข้อมูลในเชิงลึกและข้อมูลในวงกว้าง นักลงทุนควรฟังใครมากกว่า

การมองโลกสวยโดยอ้างว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่จะส่งผลกระทบต่อเศรฐกิจและการลงทุนในวงจำกัด และเกิดขึ้นเพียงระยะสั้น จึงยืนเป้าดัชนีหุ้นไว้เท่าเดิม กำลังเป็นการชี้นำผิดๆ และพานักลงทุนไปสู่ความเสียหาย

ตลาดหุ้นพุ่งขึ้นสวนการแพร่ระบาดของ “โควิด-19” ระลอกใหม่มาพักหนึ่งแล้ว แต่ช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาเริ่มปักหัวลง

และอาจเป็น จุดเริ่มต้นของการซึมซับรับผลกระทบจาก “โควิด-19” เพื่อก้าวสู่ขาลงอย่างเต็มรูปแบบ