แม้ข่าวลือธนาคารออมสินสนใจลงทุนใน บริษัท เงินทุนศรีสวัสดิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ BFIT ถูกปฏิเสธไปแล้ว แต่ราคาหุ้น BFIT ยังพุ่งอย่างต่อเนื่อง โดยรอบนี้ปรับตัวขึ้นกว่า 40% ภายในเวลาเพียง 5 วันทำการ
BFIT ยันอยู่ในระดับ 30 บาทเศษมาพักใหญ่ โดยเมื่อวันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา ปิดที่ราคา 31.50 บาท หลังจากนั้นเริ่มขยับขึ้น จนวันที่ 19 เมษายน มีแรงซื้อไหลทะลักเข้ามา ท่ามกลางกระแสข่าวลือธนาคารออมสินสนใจจะร่วมลงทุนกับ BFIT
เช่นเดียวกับการร่วมลงทุนในบริษัท เงินสดทันใจ จำกัด บริษัทลูกของบริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD
ราคาหุ้น BFIT ถูกไล่ขึ้นไปชนเพดานสูงสุด 30% โดยปิดที่ 43 บาท เพิ่มขึ้น 9.75 บาท หรือเพิ่มขึ้น 29.32%
วันที่ 20 เมษายน ธนาคารออมสินออกมาปฏิเสธข่าวลือการลงทุนใน BFIT แต่ราคาหุ้นไม่ได้ปรับฐานลงแต่อย่างใด โดยระหว่างชั่วโมงซื้อขายราคาพุ่งขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 12 เดือนที่ 50.25 บาท ก่อนจะอ่อนตัวลงมาปิดที่ 43 บาท แต่วันที่ 21 เมษายนปรับตัววิ่งต่อ และปิดที่ 46 บาท เพิ่มขึ้น 3 บาท
รวม 5 วันทำการ BFIT ปรับตัวจาก 31.50 บาท ขึ้นมาปิดที่ 46 บาท เพิ่มขึ้น 14.50 บาท หรือเพิ่มขึ้น 46.03%
ข่าวลือธนาคารออมสินสนใจร่วมทุนอาจถูกปล่อยจากนักลงทุนที่หวังกระตุ้นการเก็งกำไรหุ้น BFIT และข่าวลือที่ถูกปล่อยก็บรรลุเป้าหมาย เพราะนักลงทุนแห่ซื้อหุ้น BFIT กันฝุ่นตลบจนราคาพุ่งขึ้นชนเพดาน
แต่เมื่อข่าวลือถูกปฏิเสธหุ้นกลับไม่ลง เพราะโดยปัจจัยพื้นฐาน BFIT สามารถขยับขึ้นได้อยู่แล้ว เพียงแต่ก่อนหน้านักลงทุนอาจไม่ให้ความสนใจ เมื่อมีการจุดพลุแรงซื้อ ตามด้วยการปล่อยข่าวลือกระตุ้นราคา
แมลงเม่าจึงแห่เข้าไปลุย BFIT และแม้จะปรับตัวขึ้นแล้วเกือบ 50% แรงซื้อก็ยังไม่แผ่ว
ก่อนหน้าที่จะมีการไล่ราคาหุ้นรอบนี้ BFIT ยืนอยู่ที่ 31.50 บาท โดยมีค่าพี/อี เรโชประมาณ 11 เท่า อัตราเงินปันผลตอบแทนประมาณ 7% ขณะที่ผลประกอบการ 4 ปีย้อนหลัง กำไรสุทธิเติบโตต่อเนื่อง
ปี 2560 กำไรสุทธิ 234.81 ล้านบาท ปี 2561 กำไรสุทธิ 377.38 ล้านบาท ปี 2562 กำไรสุทธิ 810.86 ล้านบาท และปี 2563 กำไรสุทธิ 1,567.19 ล้านบาท
ไม่ต้องมีข่าวลือ หุ้น BFIT ก็สามารถปรับฐานขึ้นได้อยู่แล้วเพราะมีปัจจัยพื้นฐานสนับสนุน และปริมาณหุ้นหมุนเวียนในตลาดก็มีไม่มาก เนื่องจาก SAWAD ถือหุ้นในสัดส่วน 82.04% จึงเหลือหุ้นหมุนเวียนซื้อขายในตลาดไม่ถึง 100 ล้านหุ้น
เมื่อมีแรงซื้อทะลักเข้ามาราคาจึงดีดตัวแรง และแม้จะพุ่งขึ้นมายืนที่ 46 บาท แต่ค่าพี/อี เรโช ยังอยู่ที่ 15 เท่า และอัตราเงินปันผลตอบแทนอยู่ที่ 3.26%
แน่นอนว่า การพุ่งทะยานของ BFIT ย่อมส่งผลต่อหุ้นตัวแม่ หรือหุ้น SAWAD ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ถือหุ้น BFIT อยู่จำนวน 452.23 ล้านหุ้น นักลงทุนจึงแห่ตามเข้ามาไล่เก็บหุ้น SAWAD จนราคาพุ่งแรงตามหุ้นลูก
ชั่วโมงนี้เป็นช่วงเวลาของกลุ่ม SAWAD มีข่าวดีๆ มาไม่ขาดสาย สนับสนุนราคาขยับแรงทั้งหุ้นแม่หุ้นลูก และกลายเป็นหุ้นกลุ่มธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถที่โดดเด่นที่สุด แม้อีกไม่กี่วันจะมีน้องใหม่ หุ้นบริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR เข้ามาซื้อขายก็ตาม
สำหรับ BFIT รอบนี้ไม่ได้ขึ้นมาเพราะข่าวลือ แต่ขยับตามแรงหนุนของปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง
เพียงแค่ 5 วันพุ่งขึ้นมา 46% และไม่อาจคาดหมายได้ว่า BFIT จะไปต่อหรือจะหยุดพักฐานเมื่อไหร่