หุ้นปิดบวก 5.13 จุด กลุ่มแบงก์หนุนหลังงบฯ ดีกว่าคาด ขณะเดียวกัน มีการเล่นเก็งหุ้นรายตัวตามปัจจัยเฉพาะ สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้คาดตลาดคงจะแกว่งแคบ และอาจเผชิญแรงขายทำกำไรสลับเข้ามาในระหว่างทาง
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งค่อนข้างแคบ หลังจากตลาดได้ตอบรับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่และมาตรการคุมเข้มไปมากแล้ว เริ่มที่จะมีการพักตัวในช่วงที่ยังต้องติดตามสถานการณ์ในระยะต่อไป โดยเมื่อดัชนีฯ ขึ้นมาแถว 1,570-1,580 จุด จึงเริ่มมีแรงขายทำกำไรออกมาในช่วงที่ยังมีความไม่แน่นอนอยู่ อีกทั้งหันไปโฟกัสผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนมากขึ้น เมื่อกลุ่มแบงก์ประกาศงบออกมาทำให้มีแรงเก็งกำไร รวมทั้งยังเล่นหุ้นรายตัวตามปัจจัยเฉพาะด้วย
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวทั้งแดนบวก-ลบ โดยปัจจัยไม่ได้แย่มาก โดยเฉพาะประเทศขนาดใหญ่ มีเพียงอินเดียที่ต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ค่อนข้างรุนแรง ขณะที่การฉีดวัคซีนโควิด-19 หลายประเทศมีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เศรษฐกิจสามารถเติบโตได้มากกว่าคาด ส่วนตลาดยุโรปเทรดบ่ายนี้เคลื่อนไหวในแดนลบมากกว่าบวกราว 0.3-0.5% และดาวโจนส์ฟิวเจอร์สติดลบเล็กน้อย มองว่าเป็นผลจากแรงขายทำกำไรออกมาบ้าง
ทั้งนี้ แนะนำติดตามสถานการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีน หลังจากสหรัฐฯ จับมือญี่ปุ่นหวังคานอำนาจจีน ผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) วันที่ 22 เม.ย.นี้ คาดว่าจะยังคงนโยบายผ่อนคลายเหมือนเดิม ส่วนบ้านเราให้ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 และการกระจายวัคซีนได้ทั่วประเทศได้เมื่อใด เพราะรอบนี้การระบาดดูรุนแรงกว่าครั้งที่ผ่านมา
ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,580.04 จุด เพิ่มขึ้น 5.13 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.33% มูลค่าการซื้อขาย 102,624.85 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (21 เม.ย.) น.ส.ธีรดา กล่าวว่า ตลาดคงจะแกว่งแคบ และอาจเผชิญแรงขายทำกำไรสลับเข้ามาในระหว่างทาง โดยมีแนวรับ 1,560 จุด ส่วนแนวต้าน 1,585-1,590 จุด