กระแสคริปโตเคอร์เรนซี หรือหรือดิจิทัลคอยน์ ยังคงร้อนแรงต่อเนื่อง หลัง Bitcoin พุ่งทำราคานิวไฮมาตั้งแต่ต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา จุดพลุดันเหรียญชิบะ หรือ Dogecoin ทำสถิติราคาบวกหลายเท่าตัว สูงสุดถึง 800% ตอบรับทวีตคนดังอย่าง อิลอน มัสก์ ที่ติดแฮชแท็กคล้ายจะสนับสนุนคริปโตสกุลนี้
กระทั่งล่าสุดที่มีข่าวขอให้ระมัดระวังการลงทุนใน Stablecoin ที่มีการระบุหน่วยมูลค่าเป็นบาทที่อาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย ซึ่งกระแสคริปโตได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ นับเป็นโอกาสดีที่ทำให้ประชาชนและผู้สนใจซื้อขายได้ศึกษาหาความรู้และทำความเข้าใจสินทรัพย์ใหม่ๆ อย่างคริปโตและสินทรัพย์ดิจิทัลกันมากขึ้น
อย่างที่ทราบกันดีว่า ราคาของคริปโตเคอร์เรนซีมีความผันผวนสูงจึงมีความเสี่ยงสูงมาก ดังนั้น ปรากฏการณ์ราคาเกินคาดเดาเช่นนี้ เชื่อว่าคงยังมีโอกาสเกิดขึ้นในลักษณะนี้ต่อไปไม่เฉพาะกับคริปโตสกุลที่กล่าวมาเท่านั้น และก็คงไม่ใช่เฉพาะกับขาขึ้นของราคาเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมีขาลงด้วยซึ่งเป็นธรรมชาติของการลงทุน
สิ่งที่ควรตระหนักเสมอก่อนซื้อขาย คือ คริปโตเคอร์เรนซี อาจไม่มีปัจจัยพื้นฐานที่ชัดเจนมารองรับ ความเคลื่อนไหวของราคาคริปโตขึ้นอยู่กับความต้องการซื้อ (อุปสงค์) และความต้องการขาย (อุปทาน) ของคริปโตนั้นๆ ซึ่งเป็นผลมาจากหลายปัจจัย เช่น ความต้องการนำไปใช้งาน ความน่าเชื่อถือของเทคโนโลยี การมีข่าวว่ามีการยอมรับ (adoption) โดยบริษัทขนาดใหญ่หรือผู้มีชื่อเสียง หรือการซื้อขายตามกราฟราคา (technical analysis) เป็นต้น ขณะที่ผลิตภัณฑ์การลงทุนอย่างหุ้นและหุ้นกู้มีกิจการที่มีอยู่จริงเป็นพื้นฐานรองรับและมีผลประกอบการที่สามารถประเมินมูลค่าบริษัทได้
นอกจากนี้ ในปัจจุบันยังไม่มีประเทศใดยอมรับให้คริปโตเคอร์เรนซีใดสามารถใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย (legal tender) ราคาคริปโตที่เราเห็นในระบบซื้อขายตามศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (exchange) ต่างๆ ทั่วโลกนั้น เป็นเพียง “การตกลงยอมรับและการเชื่อในคุณประโยชน์” ของกลุ่มคนที่ถือครองและกลุ่มคนที่อยากเปลี่ยนคริปโตกับทรัพย์สิน สินค้า บริการ หรือแม้แต่กับคริปโตอื่นที่ตกลงแลกเปลี่ยนกันเท่านั้น
ฝ่ายส่งเสริมความรู้ตลาดทุนและศูนย์ประสานงานต่างจังหวัด สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นดีว่ามีผลเชิงลบ และความเสียหายเกิดขึ้นกับนักลงทุนมากกว่าผลตอบแทนที่จะได้รับ จึงได้วางแนวทางขอให้ซื้อขายคริปโตอย่างรู้เท่าทันและถูกวิธี โดยแนะนำข้อควรรู้เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นเมื่อซื้อขายไปแล้ว ดังนี้
1.ซื้อขายกับผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. ซึ่งปัจจุบันมีศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (exchange) ที่ได้รับอนุญาต 7 ราย ผู้สนใจสามารถตรวจสอบได้จากเว็บไซต์สำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th อย่างไรก็ดี แม้จะซื้อขายกับผู้ที่ได้รับใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. แต่ก็ไม่ได้เป็นการประกันว่าสินทรัพย์นั้นจะไม่มีความเสี่ยงใดเลย อาจมีความเสี่ยงด้านราคาผันผวน
2.ผู้ที่ซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีกับเว็บไซต์ต่างประเทศ ที่ไม่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. จะไม่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายไทยแต่อย่างใด
3.คริปโตเคอร์เรนซีบางสกุลอาจมีการซื้อขายอยู่ในศูนย์ซื้อขายฯ (exchange) เพียงบางแห่ง หากเกิดเหตุการณ์กับ exchange นั้น อาจทำให้ผู้ซื้อขายไม่สามารถแลกเปลี่ยนหรือขายคืนได้ ฉะนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อขายควรศึกษาข้อมูลให้ดี
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรย้ำเตือนตัวเองเสมอว่าการซื้อขายในคริปโตเคอร์เรนซีนั้น “ยังมีรถไฟอีกหลายขบวน” เพราะฉะนั้น อย่ารีบซื้อขายเพียงเพราะกลัวตกขบวน แต่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ รู้จักตัวเองว่ามีความสามารถยอมรับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงอย่างคริปโตเคอร์เรนซีนั้นเหมาะกับตัวเองหรือไม่ และเงินที่นำมาซื้อขายควรเป็นเงินเย็นพอที่จะรับความเสี่ยงที่อาจจะสูญเสียเงินลงทุนทั้งก้อนได้