การเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยใช้จังหวัดภูเก็ต และเกาะสมุยเป็นพื้นที่แรกในการรองรับการเดินทางเข้ามาของกลุ่มนักท่องเที่ยว ดูเหมือนว่าจะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวและภาคธุรกิจในพื้นที่ภูเก็ตและสมุย เป็นอย่างดี แต่ภายใต้เงื่อนไขการทำวัคซีนให้ครบ 70% ของจำนวนประชากรในพื้นที่ยังคงถูกจับตามองว่า การฉีดวัคซีนจะสามารถดำเนินการได้ทันในวันเปิดรับนักท่องเที่ยวคือ 1 กรกฎาคมนี้หรือไม่ และหากสามารถเปิดได้ตามกำหนดที่วางไว้จริง สถานการณ์ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และภาคการท่องเที่ยวของทั้ง 2 พื้นที่ในปี 64 นี้จะมีทิศทางอย่างไรหลังการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกที่ 3
นายสุรเชษฐ กองชีพ กรรมการผู้จัดการบริษัท ฟินิกซ์ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ แอนด์ คอนซัลแทนซี่ จำกัด กล่าวว่า การระบาดของโควิด-19 ในระลอกที่ 3 นี้เป็นการระบาดในพื้นที่ กทม. แล้วกระจายไปในพื้นที่ต่างจังหวัด ซึ่งทำให้จำนวนคนที่ติดเชื้อมีจำนวนไม่มากนัก แม้ในช่วงแรกอาจจะมีจำนวนการติดเชื้อเพิ่มในหลักร้อย แต่ในระยะยาวจะมีจำนวนลดลง จึงไม่น่ากระทบต่อการเปิดให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยในล็อตแรก
เนื่องจากในการเปิดประเทศให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามานั้น กำหนดให้เดินทางเข้ามาในจังหวัดภูเก็ตและเกาะสมุยเป็นหลัก โดยทางชาวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามานั้นจะต้องบินตรงไปลงที่สนามบินนานาชาติภูเก็ต ดังนั้น การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในระลอกที่ 3 จึงไม่น่ามีผลกระทบต่อแผนการเปิดประเทศให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามา โดยในล็อตแรกนี้กลุ่มธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตและเกาะสมุย คือกลุ่มแรกที่จะได้รับประโยชน์ แต่ประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นจะมีมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามา ซึ่งในเบื้องต้นยังไม่มั่นใจว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวมากเท่าไหร่
เนื่องจากมีหลายปัจจัยที่อาจทำให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาไม่มาก เช่น ปัจจัยเรื่องของค่าตั๋วเครื่องบิน ซึ่งมีราคาสูงกว่าช่วงปกติ เนื่องจากมีจำนวนเที่ยวบินจำกัดทำให้ค่าใช้จ่ายในการเดินทางค่อนข้างสูง นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของรูปแบบการกักตัวกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามา แม้ว่าบางกลุ่มจะมีวัคซีนพาสปอร์ตแล้วก็ตามแต่การเดินทางเข้ามาถึงจะต้องมีการกักตัวอยู่ในโรงแรมอย่างน้อย 7 วัน
"แม้ว่าบางกลุ่มจะมีการฉีดวัคซีนมาแล้วแต่เมื่อมาถึงอาจต้องมีการกักตัวไว้ในจังหวัดภูเก็ต อย่างน้อย 7 วัน ก่อนที่จะเดินทางต่อไปในที่อื่นๆ ได้ ซึ่งกรณีดังกล่าวต้องพิจารณาตามระยะเวลาของการฉีดวัคซีนของชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาด้วย อานิสงส์จากการเปิดประเทศในครั้งนี้ กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นั้น เบื้องต้นเชื่อว่ายังมีไม่มาก เนื่องจากต้องใช้ระยะเวลาในการฟื้นตลาด เช่นเดียวกับช่วงที่ผู้ประกอบการอสังหาฯ พยายามบูมตลาดคอนโดมิเนียมเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ" นายสุรเชษฐ กล่าว
นอกจากนี้ กลุ่มผู้เดินทางเข้ามาในประเทศ อาจยังไม่มีความพร้อมในเรื่องของการโอนเงินสดข้ามประเทศจากต้นทางเนื่องจากเป้าหมายแรกที่เดินทางเข้ามาคือ การเดินทางมาพักผ่อน หรือเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว และอาจมีบางกลุ่มที่เดินทางเข้ามาเพื่ออยู่อาศัยในประเทศไทย โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เคยเดินทางเข้ามาในประเทศไทยแล้ว
นายณัฎฐา คหาปนะ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัดกล่าวว่า การเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกลับเข้ามาเที่ยวในประเทศไทย โดยมีภูเก็ตและสมุยเป็นเฟสแรก เชื่อว่าจะทำให้ตลาดท่องเที่ยวและอสังหาฯ กลับมาคึกคักอีกครั้ง เนื่องจากภูเก็ตและสมุยเป็นตลาดท่องเที่ยว และกลุ่มลูกค้าหลัก คือ ชาวต่างชาติซึ่งมีสัดส่วน 80-90% โดยในเบื้องต้น กลุ่มที่เดินทางเข้ามาจะเป็นกลุ่มที่เคยเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยแล้ว ซึ่งกลุ่มนี้อาจจะเข้ามาพักเพื่อหนีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศของตน
ล่าสุด มีข้อมูลแจ้งว่าประเทศที่มีการยื่นความประสงค์ที่จะเดินทางเข้ามาในเฟสแรกมี 28 ประเทศ ซึ่งในจำนวนนี้เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวจากประเทศรัสเซีย สิงคโปร์ จีน เยอรมนี กลุ่มประเทศยุโรป ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง
และมีความคุ้นเคยกับประเทศไทย
“การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าภูเก็ตและสมุย ที่มีกลุ่มลูกค้าหลักเป็นชาวต่างชาติ การล็อกดาวน์ประเทศในช่วงที่ผ่านมา ทำให้สมุยและภูเก็ต ได้รับผลกระทบเต็มๆ เพราะทั้ง 2 ตลาดนี้ไม่มีลูกค้าคนไทยเข้ามาชดเชยเหมือนกับตลาด กทม. และตลาดอื่นๆ”
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ตลาดการซื้อขายในภูเก็ตขณะนี้เริ่มมีชาวต่างชาติที่ติดต่อซื้อขายผ่านทางออนไลน์บ้างแล้วหลังจากที่มีข่าวการทยอยฉีดวัคซีน และมีกำหนดการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ชัดเจน เนื่องจากการซื้ออสังหาฯ ในช่วงนี้สามารถต่อรองราคาได้มากกว่าในช่วงปกติ
"การเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยล็อตแรกนี้แน่นอนว่าจะส่งผลดีต่อตลาดท่องเที่ยวและธุรกิจอสังหาฯ กลับมาคึกคักมากขึ้น แต่จะส่งผลดีมากน้อยเพียงใดนั้นต้องดูว่ากลุ่มที่เดินทางเข้ามาเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวเป็นหลักหรือมีกลุ่มนักลงทุนเดินทางเข้ามาจำนวนมากน้อยแค่ไหน"
นายณัฎฐา กล่าวว่า ดีมานด์และซัปพลายที่อยู่อาศัยในภูเก็ตนั้น โดยมากเป็นกลุ่มคอนโดมิเนียม และวิลล่า โดยไตรมาส 4/63 ที่ผ่านมาซัปพลายคอนโดในภูเก็ตมีจำนวน 26,100 ยูนิต โดยสามารถระบายออกไปแล้ว 19,700 ยูนิต ทำให้เหลือซัปพลายสะสมอยู่ 6340 ยูนิต ขณะที่กลุ่มวิลล่ามีซัปพลายอยู่ที่ 3,871 ยูนิต และมียอดระบายออกแล้ว 3,065 ยูนิต
“หากดูจากตัวเลขแล้วเหมือนว่าวิลล่าจะมีอัตราการขายที่ดีมาก แต่ในความเป็นจริงแล้วรูปแบบของการซื้อวิลล่านั้นผู้พัฒนาจะก่อสร้างก็ต่อเมื่อมียอดการทำสัญญาซื้อขายแล้ว ดังนั้น จำนวนยูนิคที่เปิดขายและจำนวนยูนิตที่ขายได้จึงมีความใกล้เคียงกันเนื่องจากเป็นการซื้อก่อนสร้าง”
