สัปดาห์ที่แล้วตลาดหุ้นไทยโดนพิษโควิด-19 ระลอก 3 ยุบลงไปพอควร (2 เม.ย.64 ดัชนีปิด 1,596.27 จุด ขณะ 9 เม.ย.64 ปิด 1,566.34 จุด ย่อลง 29.93 จุด หรือ -1.87%) โดย SET100 หุ้นราคาลดไปมากถึง 76 ตัว ไม่เปลี่ยนแปลง 7 ตัว และยังบวก 17 ตัว ซึ่งมี 8 ตัวที่แกร่งมาตั้งแต่โควิด-19 รอบแรกจนถึงรอบปัจจุบัน
1.COM7 (บมจ.คอมเซเว่น) เพิ่งทำราคาสูงสุดตลอดกาลไปที่ 69.00 บาท เมื่อวันที่ 7 เม.ย.64 ที่ผ่านมา และในรอบสัปดาห์ที่แล้ว (5-9 เม.ย.64) ทำราคาปรับเพิ่ม 3.25 บาท หรือ +5.06% (วันที่ 2 เม.ย.64 ปิดที่ 64.25 บาท ล่าสุด 9 เม.ย.64 ปิด ที่ 67.50 บาท)
ย้อนหลัง 2 ปี ผลประกอบการด้านราคาแจ่มโดยในปี 62 อยู่ที่ +70.97% และปี 63 อยู่ที่ +47.17% ขณะที่ปี 64 YTD อยู่ที่ +73.08%
โบรกฯ หลายสำนักชู COM7 ติดอันดับหุ้นเด่น ที่ไม่กระทบต่อโควิด-19 ระลอกใหม่ ซึ่งหุ้นกลุ่มค้าปลีกสินค้าไอทีกำลังโตตามเทรนด์การเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีเป็น 5G
2.KCE (บมจ.เคซีอี อีเลคโทรนิคส์) ทำผลงานบวกติดต่อกัน 6 วัน ก่อนที่จะปิด -1.50 บาท หรือ -2.47% ในวันที่ 9 เม.ย.64 แต่เมื่อดูภาพรวมสัปดาห์ที่ผ่านมา (5-9 เม.ย.64) ราคายังปรับเพิ่ม 2.25 บาท หรือ +3.95% (วันที่ 2 เม.ย.64 ปิดที่ 57.00 บาท ล่าสุด 9 เม.ย.64 ปิดที่ 59.25 บาท)
ปีที่แล้ว KCE ทำผลประกอบการด้านราคาค่อนข้างดี คือในปี 2563 อยู่ที่ +69.39% ขณะที่ในปี 64 ราคา YTD อยู่ที่ +42.77%
KCE เป็นเบอร์ต้นๆ ของหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกคาดหวังผลประกอบการ Q 1/64 จะสดใส และที่ผ่านมาไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทั้ง 3 รอบ และเมื่อวันที่่ 8 เม.ย.64 เพิ่งทำจุดสูงสุดที่ 61.00 บาท
3.DOHOME (บมจ.ดูโฮม) สัปดาห์ที่ผ่านมา แม้จะพบโควิด-19 ระลอก 3 แต่ราคายังปรับเพิ่ม 0.70 บาท หรือ +3.43% (วันที่ 2 เม.ย.64 ปิดที่ 20.40 บาท ล่าสุด 9 เม.ย.64 ปิดที่ 21.10 บาท)
และถ้าดูผลประกอบการด้านราคาย้อนหลังในปี 2563 ที่เจอโควิด-19 หนักๆ DOHOME ยังทำผลงานดี +67.53% และขณะที่ในปี 64 ราคา YTD อยู่ที่ +50.71%
ช่วงต้นเดือน เม.ย.64 (1 เม.ย.64) DOHOME ทำจุดสูงสุดที่ 21.40 บาท ทำสถิติราคาสูงสุดตลอดกาล (All Time High) ผลมาจากการคาดผลงาน Q 1/64 จะพุ่งแรง
4.HANA (บมจ.ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส์) สัปดาห์ที่แล้ว (5-9 เม.ย.64) ทำราคาปรับเพิ่ม 1.75 บาท หรือ +3.08% (วันที่ 2 เม.ย.64 ปิดที่ 56.75 บาท ล่าสุด 9 เม.ย.64 ปิดที่ 58.50 บาท)
เมื่อไปดูผลประกอบการด้านราคาในปี 62 คือ +4.55% และปี 63 คือ +15.22% และ 64 ราคา YTD อยู่ที่ +47.17%
HANA แม้จะรับผลกระทบโควิด-19 บ้าง แต่ฟื้นเร็วทำให้หลายโบรกฯ จัดเป็นหุ้นที่ได้รับผลกระทบจำกัดจากการระบาดโควิด-19
5.STA (บมจ.ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี) ช่วงโควิด 2 ครั้งที่ผ่านมา วิ่งสวนตลาด และครั้งที่ 3 นั้น ในสัปดาห์ที่แล้ว (5-9 เม.ย.64) ทำราคาปรับเพิ่ม 0.75 บาท หรือ +1.63% (วันที่ 2 เม.ย.64 ปิดที่ 46.00 บาท ล่าสุด 9เม.ย.64 ปิดที่ 46.75 บาท)
แม้ว่าผลประกอบการด้านราคาในปี 62 จะดิ่งเหว -29.08% แต่ในปี 63 ถือว่าสดใสมาก +165.00% (ต้นปียังอยู่ที่ 10.00 บาท ปลายปีพุ่งไป 26.50 บาท) ขณะที่ปี 64 YTD อยู่ที่ +76.41% (ทำราคาสูงสุด 56.75 บาท)
จากธุรกิจธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายยางธรรมชาติแบบครบวงจร (รวมถุงมือยางด้วย) มาถึงธุรกิจกัญชง สร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน ทำให้ราคาวิ่งไม่หยุด
6.RBF (บมจ.อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย) ที่ผ่านมาแม้จะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 บ้างแต่เล็กน้อยและฟื้นเร็ว ทำให้กลับมาทำผลงานทั้งรายได้รวมและกำไรในปี 63 เพิ่มจากปี 62 รวมไปถึงผลประกอบการด้านราคาในปี 62 คือ +33.33% และปี 63 คือ +111.36% และ 64 ราคา YTD อยู่ที่ +93.55%
ส่วนผลประกอบการด้านราคา สัปดาห์ที่ผ่านมา (5-9 เม.ย.64) ราคาไม่เปลี่ยนแปลง แม้ว่าล่าสุด 9 เม.ย.64 จะ ปิดที่ 18.00 บาท ลดลง -0.10 บาท หรือ -0.55% และในขณะที่ไทยพบโควิด-19 ระลอกใหม่ แต่ RBF ทำ All Time High ที่ ราคา 19.90 บาท ในวันที่ 5 เม.ย.64 ก่อนจะลงมาปิดที่ 19.70 บาท ซึ่งคาดว่าอาจจะมีแรงหนุนจากการเปิดแนวรุกไปยังธุรกิจ "กัญชง" ด้วย
7.JMART(บมจ. เจ มาร์ท) ราคาล่าสุด 9 เม.ย.64 ปิดที่ 42.25 บาท ลดลง -0.50 บาท หรือ -1.17% และในสัปดาห์ที่แล้ว (5-9 เม.ย.64) ราคาย่อลงเล็กน้อยลบไป 0.50 บาท หรือ -1.17% แต่เมื่อไปดูผลประกอบการด้านราคาในปี 62 คือ +117.51% และปี 63 คือ +139.52% และ ปี 64 ราคา YTD อยู่ที่ +111.25%
ช่วงหลังหุ้นตระกูล J มาแรง จากความโดดเด่นที่แปลงร่างจากกลุ่มธุรกิจค้าปลีกพัฒนาเป็นกลุ่มการเงินดิจิทัลทำให้ดูทรงแล้วน่าจะไปได้อีกไกล
8.TQM (บมจ.ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น) สัปดาห์ที่แล้ว (5-9 เม.ย.64) ทำราคาปรับเพิ่ม 3.00 บาท หรือ +2.42% (วันที่ 2 เม.ย.64 ปิดที่ 124.00 บาท ล่าสุด 9 เม.ย.64 ปิดที่ 127.00 บาท) ผลประกอบการด้านราคาในปี 62 คือ +189.47% และปี 63 คือ +103.79% และปี 64 ราคา YTD อยู่ที่ -5.90%
TQM รับอานิสงส์โควิด-19 ดันยอดประกันพุ่งอีกครั้ง และเป็นบริษัทที่มีสภาพคล่องสูงและปราศจากหนี้สิน ทำให้ขยายฐานธุรกิจและลูกค้าได้เพิ่มอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม สัปดาห์นี้เข้าสู่เทศกาลสงกรานต์ ต้องจับตัวเลขของผู้ติดเชื้อจะเพิ่มแบบก้าวกระโดดหรือไม่ พร้อมเกาะติดเรื่องการกระจายฉีดวัคซีนให้เร็วกว่าที่เป็นอยู่ได้หรือไม่