ศูนย์ข้อมูลฯ ระบุยอดโอนสะสมห้องชุดคนต่างชาติช่วง 3 ปี (2561-63) มูลค่ากว่า 115,177 ล้านบาท ดูดซัปพลายคอนโดฯ ไปแล้ว 34,651 หน่วย เผยโควิด-19 กระทบโควตาต่างชาติ ปี 63 หน่วยโอนห้องชุดลดฮวบ -35.5% มูลค่า -25.5% แต่ก็พอมีสัญญาณบวกหลังโควิด-19 คลี่คลาย เผยผู้ประกอบการปรับกลยุทธ์ เบนเข็มเจาะกำลังซื้อคนไทยชดเชยดีมานด์ต่างชาติ "ชาวจีน" มาแรงอันดับหนึ่ง กำลังซื้อหลักโอนสูงสุด จับตา! เปิดประเทศหนุนอสังหาฯ คึกคัก
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ รายงานสถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติทั่วประเทศ ระบุในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา (2561-2563) ตลาดอาคารชุดที่ขายให้คนต่างชาติมีมูลค่ากว่า 115,177 ล้านบาท มีจำนวน 34,651 หน่วย สำหรับในปี 2563 ที่ผ่านมา พบว่าจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม 2563 ได้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อตลาดอาคารชุดที่ขายให้แก่คนต่างชาติ เนื่องจากได้มีการล็อกดาวน์การเดินทางเข้าออกประเทศ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติ ทำให้ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2563 เป็นช่วงที่มีการเคลื่อนไหวในส่วนของการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดเพียง 1,162 หน่วย โดยลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2562 ร้อยละ -61.1 และมีมูลค่าลดลงเหลือ 5,073 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์อยู่ที่ 11,108 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ -54.3
ต่อมา ในไตรมาสที่ 3-4 สถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ของคนต่างชาติเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น โดยเป็นผลมาจากความพยายามแก้ปัญหาของผู้ประกอบการ เพื่อช่วยให้ผู้ซื้อชาวต่างชาติสามารถทำการรับโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดที่สร้างเสร็จพร้อมโอนได้ โดยเพิ่มเป็น 1,885 หน่วย มูลค่ารวม 9,381 ล้านบาทในไตรมาส 3 และจำนวน 2,592 หน่วย มูลค่ารวม 12,730 ล้านบาท ในไตรมาสสุดท้าย ส่งผลให้ทั้งปี 2563 มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติทั่วประเทศรวมทั้งสิ้น 8,285 หน่วย (12,798 หน่วย) มูลค่า 37,716 ล้านบาท (50,610 ล้านบาท) โดยจำนวนหน่วยต่ำกว่าปี 62 ร้อยละ -35.3 และมูลค่าลดลงร้อยละ -25.5
ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า หากเปรียบเทียบจำนวนการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติเทียบกับคนไทย พบว่า ในปี 2561 คนต่างชาติเคยมีสัดส่วนการโอนกรมมสิทธิ์คิดเป็นร้อยละ 10.1 ของจำนวนหน่วยทั้งหมด และมีมูลค่าคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ16.3 ของมูลค่าทั้งหมด ต่อมาในปี 2562 มีสัดส่วนลดลงเหลือร้อยละ 9.9 ของจำนวนหน่วยทั้งหมด และร้อยละ 15.5 ของมูลค่าทั้งหมด และมีสัดส่วนต่ำสุด เหลือเพียงร้อยละ 6.8 ของจำนวนหน่วยทั้งหมด และร้อยละ 12.1 ของมูลค่าทั้งหมดในปี 2563
ระดับราคาห้องชุดที่คนต่างชาติมีการโอนกรรมสิทธิ์มากที่สุด เฉลี่ย 3 ปีย้อนหลัง (ปี 2561-2563) ส่วนใหญ่จะอยู่ในระดับราคา 3.01-5.00 ล้านบาท และราคา 2.01-3 ล้านบาท โดยทั้ง 2 ระดับราคาจะมีสัดส่วนจำนวนหน่วยใกล้เคียงกันคือร้อยละ 23.2 และร้อยละ 23.0 ตามลำดับ แต่เมื่อพิจารณาด้านมูลค่าการโอน พบว่า ห้องชุดระดับราคามากกว่า 10 ล้านบาท จะมีสัดส่วนมูลค่าสูงสุดถึงร้อยละ 28.5
ต่างชาติโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดในพื้นที่กรุงเทพฯ มากกว่าครึ่ง
จังหวัดที่มีจำนวนการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติมากที่สุดในปี 2563 ใน 10 ลำดับแรก ซึ่งมีสัดส่วนจำนวนหน่วยรวมกันมากถึงร้อยละ 99.7 และมีสัดส่วนมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์รวมกันมากถึงร้อยละ 99.8 ส่วนที่เหลืออีก 20 จังหวัดมีสัดส่วนจำนวนหน่วยเพียงร้อยละ 0.3 และสัดส่วนมูลค่ารวมกันร้อยละ 0.2
อันดับแรก คือ กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีสัดส่วนจำนวนหน่วยมากถึงร้อยละ 57.1 และมีสัดส่วนมูลค่าการโอนมากถึงร้อยละ 73.5 เกินกว่าครึ่งหนึ่งของการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติทั่วประเทศ
อันดับ 2 คือ จังหวัดชลบุรี มีสัดส่วนจำนวนหน่วยร้อยละ 24.9 แต่มีสัดส่วนมูลค่าร้อยละ 14.2 อันดับ 3 คือจังหวัดภูเก็ต มีสัดส่วนจำนวนหน่วยเพียงร้อยละ 4.7 แต่มีสัดส่วนมูลค่าร้อยละ 4.6 ส่วนอันดับ 4-10 ได้แก่ จังหวัดสมุทรปราการ เชียงใหม่ ประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน) ปทุมธานี ระยอง นนทบุรี และเชียงราย ตามลำดับ
สัญชาติของคนต่างชาติที่ซื้อและรับโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดมากที่สุด 10 อันดับแรก ในปี 2563 เปรียบเทียบกับปี 2562 ซึ่งสัญชาติของคนต่างชาติของทั้ง 2 ปี มีรายชื่อ 10 ประเทศที่เหมือนกัน โดยอันดับ 1 เป็นชาวจีน ที่โอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดมากที่สุด โดยในปี 2562 มีสัดส่วนการโอนร้อยละ 59.6 ของจำนวนหน่วย และเพิ่มสัดส่วนเป็นร้อยละ 63.4 ในปี 2563 แต่มูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ลดลงเมื่อเทียบกับปี 62 แต่สัดส่วนยังสูง เนื่องจากมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ของแต่ละประเทศลดลงเช่นกัน ทำให้ค่าเฉลี่ยชาวจีนมีสัดส่วนสูง
*อันดับ 2 เป็นชาวรัสเซีย มีสัดส่วนการโอนกรรมสิทธิ์ปี 2563 ร้อยละ 4.7 ของจำนวนหน่วยทั้งหมด แต่ลดลงจากปี 2562 ซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 6.2 ของจำนวนหน่วยทั้งหมด
อันดับ 3 เป็นชาวฝรั่งเศส สัดส่วนการโอนกรรมสิทธิ์ปี 2563 ร้อยละ 3.4 ของจำนวนหน่วยทั้งหมด โดยมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจากปี 2562 ซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 3.1
อันดับ 4 เป็นชาวสหราชอาณาจักร (อังกฤษ) สัดส่วนการโอนกรรมสิทธิ์ปี 2563 ร้อยละ 3.1 ของจำนวนหน่วย สัดส่วนเพิ่มขึ้นจากปี 2562 ซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 3.0
อันดับ 5 เป็นชาวเยอรมัน สัดส่วนการโอนกรรมสิทธิ์ปี 2563 ร้อยละ 2.5 ของจำนวนหน่วยทั้งหมด โดยมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจากปี 2562 ซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 2.2. (เดิมในปี 62 จะเป็นชาวญี่ปุ่น ซึ่งในปี 63 หล่นไปอยู่อันดับ 8)
อนึ่ง รัฐบาลได้กำหนดช่วงเดือนกรกฎาคม 64 จะเริ่มมีการเปิดประเทศมากขึ้น หลังจากในหลายประเทศตั้งแต่ไตรมาสแรกที่ผ่านมา เริ่มมีการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนภายในประเทศ แต่ในสถานการณ์การระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 คงต้องดูท่าทีของรัฐบาล จะยังคงยึดตามกรอบในการเปิดประเทศหรือไม่