ดัชนีตลาดหลักทรัพย์พุ่งทะยานผ่าน 1,600 จุดไปแล้ว และเป็นตัวเลขสถิติสูงสุดใหม่ นับจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบ ฉุดดัชนีหุ้นดิ่งลงไปต่ำสุดที่ 969 จุด เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2563
แม้ตลาดหุ้นไทยจะคลานต้วมเตี้ยมเหมือนเต่า ปรับตัวขึ้นช้ากว่าตลาดหุ้นอื่น แต่สุดท้ายก็สร้างจุดสูงสุดใหม่ก่อนเกิด “โควิด-19” จนได้
คำถามต่อไปคือ ทะลุ 1,600 จุดแล้วตลาดหุ้นจะไปไหนต่อ จะถอยลงมาอีก หรือเดินหน้าสร้างจุดสูงสุดใหม่ต่อไป
การปรับตัวขึ้นรอบนี้ได้แรงหนุนทั้งจากปัจจัยภายนอกและปัจจัยภายใน โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ที่สร้างจุดสูงสุดใหม่เป็นรายวัน กระตุ้นให้ตลาดหุ้นทั่วโลกขยับตาม
ส่วนมาตรการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ นำร่องที่จังหวัดภูเก็ต โดยนักท่องเทียวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบ 2 โดส สามารถเข้ามาเที่ยวที่ภูเก็ตได้โดยไม่ต้องกักตัว 14 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมนี้ จะทำให้ธุรกิจท่องเทียวฟื้นตัวเร็วขึ้น
นักลงทุนจึงลุยซื้อหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว ทำให้ตลาดหุ้นคึกคักขึ้น นอกจากนั้น ยังมีการไล่ซื้อหุ้นกลุ่มธนาคาร เพื่อดักผลประกอบการไตรมาสแรกที่จะประกาศหลังสงกรานต์ ทำให้บรรยากาศการลงทุนโดยรวมคึกคักขึ้น
นอกจากนั้น นักลงทุนต่างชาติยังเริ่มทยอยกลับเข้ามาซื้อหุ้นอีกด้วย
การปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 1,600 จุด เกิดขึ้นโดยมีแรงหนุนอย่างสมเหตุสมผล และนักวิเคราะห์โบรกเกอร์ส่วนใหญ่มีมุมมองแนวโน้มตลาดหุ้นดีขึ้น โดยเชื่อว่า ตลาดเปลี่ยนเป็นช่วงขาขึ้นจนเตรียมปรับประมาณการเป้าหมายดัชนีหุ้นปีนี้ จากเดิมที่มองกันประมาณ 1,600 จุด
แต่แนวโน้มระยะสั้นทิศทางจะเป็นอย่างไร จะต้องพักฐานกันชั่วคราว หรือหรือเดินหน้าต่อไปสู่เป้าหมาย 1,650 จุด
หุ้นแต่ละกลุ่มซึมซับรับข่าวดีถ้วนหน้าแล้ว ไม่ว่ากลุ่มท่องเที่ยว แม้กระทั่งหุ้นสนามบินและหุ้นสายการบิน เช่นเดียวกับหุ้นกลุ่มธนาคาร ซึ่งขึ้นไปดักรอผลประกอบการไตรมาสแรก รวมทั้งหุ้นกลุ่มอื่นที่ขึ้นตามตลาด ดั้งนั้น ราคาน่าจะถึงจุดอิ่มตัวชั่วคราว เว้นแต่จะมีปัจจัยใหม่เข้ามากระตุ้น
ดัชนีหุ้นระดับ 1,600 จุด ถือว่ามาไกลพอสมควร โดยปรับตัวขึ้นจากจุดปิดสิ้นปี 2563 ประมาณ 150 จุด หรือกว่า 10% และถือเป็นตลาดหุ้นที่โดดเด่นในไตรมาสแรก แต่การจะเดินหน้าต่อไปสู่เป้า 1,650 จุด ในรอบนี้คงไม่ง่าย
เพราะหุ้นตอบรับข่าวดีหมดแล้ว และใกล้เทศกาลสงกรานต์ที่จะมีวันหยุดยาว นักลงทุนอาจชะลอการซื้อขาย ทำให้ตลาดซบเซาลง เช่นเดียวกับช่วงเทศกาลสงกรานต์ของทุกปี
ปัจจัยระยะสั้นที่อาจปลุกตลาดหุ้นให้คึกคักคือ ผลประกอบการกลุ่มธนาคารพาณิชย์ไตรมาสแรก ซึ่งจะประกาศหลังสงกรานต์ โดยหากกำไรกลุ่มธนาคารออกมาดีจะกระตุ้นหุ้นธนาคารให้วิ่งอีกครั้ง และยังส่งผลบวกทางจิตวิทยาต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนเกี่ยวภาวะเศรษฐกิจที่มีสัญญาณการฟื้นตัว
ก่อนธนาคารพาณิชย์จะประกาศงบการเงินไตรมาสแรก ดัชนีหุ้นคงแกว่งตัวขึ้นลงในกรอบแคบๆ แถว 1,600 จุดไปก่อน และปล่อยให้หุ้นรายตัวทำหน้าที่สร้างสีสันในการเก็งกำไรไปพลางๆ ก่อน
ส่วนภาพรวมของตลาดหุ้นจะเคลื่อนตัวไปทางไหน ไปต่อถึง 1,650 จุดได้หรือไม่ คงต้องรอลุ้นกันอีกครั้งหลังสงกรานต์