ตลาดหลักทรัพย์ออกประกาศด่วนระหว่างพักการซื้อขายหุ้นวันอังคารที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมา เตือนนักลงทุนให้ระมัดระวังการซื้อขายหุ้น บริษัท ซีมิโก้ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ ZMICO หลังราคาหุ้นพุ่งทะยานขึ้นในการซื้อขายช่วงเช้า
ราคาหุ้น ZMICO เปิดการซื้อขายในวันอังคารที่ 4.92 บาท ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อน หลังจากนั้นมีแรงซื้อไล่ราคาขึ้นไปสูงสุดที่ 5.45 บาท และอ่อนตัวลงมาปิดในช่วงเช้าที่ 5.30 บาท เพิ่มขึ้น 38 สตางค์ มูลค่าซื้อขาย 166 ล้านบาท
หลังปิดตลาดช่วงเช้า ตลาดหลักทรัพย์ได้ออกประกาศเตือนนักลงทุนให้ระมัดระวังการซื้อขายหุ้น ZMICO เนื่องจากรการติดตามสภาพการซื้อขาย พบว่า มีการเปลี่ยนแปลงจากสภาพปกติอย่างมาก และอยู่ในมาตรการกำกับการซื้อขายระดับ 3
แม้จะมีคำเตือนจากตลาดหลักทรัพย์ แต่การซื้อขายในภาคบ่าย หุ้น ZMICO ไม่ได้เกิดความผันผวนรุนแรงเท่าใดนัก โดยแม้ราคาจะอ่อนตัวลงในการซื้อขายภาคบ่าย แต่ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อปิดตลาด โดยปิดที่ 4.96 บาท เพิ่มขึ้น 4 สตางค์ มูลค่าซื้อขายทั้งสิ้น 367.94 ล้านบาท
ZMICO เป็นหุ้นขนาดเล็กที่เงียบเหงามานาน โดยราคาเคลื่อนไหวระดับ 1 บาทมาพักใหญ่ ท่ามกลางมูลค่าซื้อขายเบาบาง วันละประมาณ 1 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ราคาปิดที่ 1 บาท แต่หลังจากนั้นเริ่มขยับตัวขึ้น และวันที่ 8 กุมภาพันธ์ บริษัทแจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์ว่า นายสุเทพ วงวรเศรษฐ์ ประธานกรรมการบริษัทจะขายหุ้นจำนวน 100 ล้านหุ้น หรือ 6.047% ของทุนจดทะเบียน ในราคาหุ้นละ 1.60 บาท ให้ นายระเฑียร และ น.ส.กมลกานต์ ศรีมงคล
การทำรายการซื้อเสร็จสิ้นภายในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ และนายสุเทพ จะลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ได้มีการแต่งตั้งนายระเฑียร เข้ามาเป็นประธานกรรมการบริษัทแทน
ปัจจัยที่ผลักดันให้ราคาหุ้น ZMICO พุ่งทะยานมีเพียงประเด็นเดียวคือ นายระเฑียรเข้ามาเป็นผู้บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัท
แต่ข่าวนายระเฑียร เพียงชิ้นเดียวจะผลักดันให้ราคาหุ้นดีดตัวขึ้นมาถึง 396% เชียวหรือ ไม่มีขาใหญ่ผสมโรงเข้ามาลากราคาหุ้นด้วยหรือ
จากราคาเพียง 1 บาท ภายในเวลาไม่ถึง 2 เดือน ZMICO วิ่งขึ้นมาที่ 4.96 บาท เพิ่มขึ้น 3.96 บาท หรือ 396% ทั้งที่ตลาดหลักทรัพย์แจกใบเหลืองถึง 3 ครั้ง โดยประกาศใช้มาตรการกำกับการซื้อขายถึง 3 รอบ
ครั้งแรกประกาศมาตรการกำกับซื้อขายระหว่างวันที่ 22 กุมภาพันธ์ถึง 2 เมษายน ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 3 มีนาคมถึง 2 เมษายนและครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 18 มีนาคมถึง 8 เมษายนนี้
ตลาดหลักทรัพย์สอบถาม ZMICO ถึง 3 ครั้ง เกี่ยวกับพัฒนาการสำคัญของบริษัทที่จะมีผลต่อราคาหุ้น แต่คำตอบเหมือนกันทุกครั้ง โดยบริษัทฯ แจ้งว่า ไม่มีพัฒนาการใดๆ ที่มีผลต่อราคาหุ้น และไม่รู้ว่าหุ้นปรับตัวขึ้นด้วยเหตุใด
เช่นเดียวกับนักลงทุนทั่วไปที่ตั้งข้อสงสัยในราคาหุ้นที่ร้อนแรงอย่างไม่ปกติของ ZMICO เพราะปัจจัยพื้นฐานบริษัทไม่โดดเด่น ไม่มีค่าพี/อี เรโช ไม่จ่ายเงินปันผลมายาวนานหลายปี มียอดขาดทุนสะสม 58.81 ล้านบาท
ผลประกอบการย้อนหลัง 3 ปี มีกำไรสลับกับขาดทุน โดยปี 2561 ขาดทุนสุทธิ 195.84 ล้านบาท มี 2562 กำไรสุทธิ 81.33 ล้านบาท และปี 2563 ขาดทุนสุทธิ 16.62 ล้านบาท
การที่นายระเฑียร เข้ามาเป็นผู้บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่ อาจทำให้เกิดความคาดหวังว่า ผลประกอบการ ZMICO จะดีขึ้น เพราะนายระเฑียร สร้างผลงานในการทำให้บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC มีผลประกอบการเติบโตต่อเนื่อง จนราคาหุ้นพุ่งทะยานขึ้นกว่า 2,500% ในเวลาเพียง 8 ปี
แต่ราคาหุ้น ZMICO คาดหวังกับผู้บริหารคนใหม่มากเกินไปหรือไม่ เพราะนายระเฑียรไม่ใช่ยอดมนุษย์ หรือเป็นซูเปอร์แมน และแม้ประสบความสำเร็จจากการบริหาร KTC จนเป็นที่ยอมรับในความสามารถก็ตาม
แต่ไม่ได้เป็นประกาศนียบัตรที่รับประกันว่า จะติดปีกบินให้ ZMICO ได้
การออกประกาศด่วนเตือนนักลงทุนให้ระมัดระวังการเก็งกำไรหุ้น ZMICO เป็นมาตรการที่เหมาะสม เพื่อดับร้อนหุ้นที่ “ดื้อยา” ตัวนี้