xs
xsm
sm
md
lg

เวิลด์แบงก์คาดจีดีพีไทยโต 3.4% แนะเพิ่มมาตรการเฉพาะจุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายเกียรติพงศ์ อริยปรัชญา นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า ธนาคารโลกคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2564 เติบโตได้ 3.4% จากปี 2563 ที่ -6.1% และคาดการณ์ปี 2665 และ 2566 เติบโตที่ 4.7% และ 3.9% ตามลำดับ โดยยังมีความไม่แน่นอนสูงจากสถานการณ์โควิด-19 แม้ที่ผ่านมารัฐบาลจะควบคุมการระบาดที่อยู่ในเกณฑ์ดี และมีมาตรการเยียวยาออกมาอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว แต่ในระยะปานกลางและระยะยาวยังคงต้องมีมาตรการเพิ่มเติมที่มีความเฉพาะจุดสำหรับกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมาก รวมถึงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติมเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระยะยาว

"เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากการท่องเที่ยวที่เราพึ่งพาอยู่สูงยังมีความไม่แน่นอน แม้จะมีวัคซีนออกมาแล้ว แต่ก็ยังกระจายได้ไม่เต็มที่ และยังอาจจะมีนักท่องเที่ยวบางส่วนที่ยังไม่อยากเดินทางหากไม่จำเป็น โดยเวิลด์แบงก์ได้คาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวปีนี้ที่ 4.5 ล้านคน จากกลุ่ม สเปเชียล ทราเวลเป็นหลัก"

นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มที่ต้องการการดูแลเพิ่มเติมในส่วนของกลุ่มผู้ว่างงานที่ควรได้รับการฝึกฝนเพิ่มเติมในทักษะที่มีความต้องการในอนาคต รวมถึงกลุ่มผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นเพื่อเตรียมรองรับการเข้าสู่สังคมสูงวัยของไทย

ด้านภาระหนี้สาธารณะของประเทศนั้น ณ ระดับ 53% ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ ขณะที่วงเงินที่จะใช้สำหรับการเยียวยาและฟื้นฟูก็เป็นจำนวนที่สูงและยังมีพื้นที่ที่ให้รัฐบาลดำเนินการได้ แต่หากสามารถกำหนดจุดช่วยเหลือให้ตรงจุดมากขึ้นก็จะสามารถช่วยประหยัดงบประมาณได้

พร้อมกันนี้ ธนาคารโลกยังได้ออกรายงานตามติดเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกฉบับล่าสุด โดยระบุว่า มีเพียงจีนและเวียดนามเท่านั้นที่มีการฟื้นตัวเป็นรูปตัววีโดยขณะนี้มีผลผลิตสูงกว่าระดับก่อนโควิด-19 แล้ว ขณะที่เศรษฐกิจของประเทศสำคัญอื่นๆ ในภูมิภาค ผลผลิตยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับก่อนการแพร่ระบาดราว 5% โดยเฉลี่ย ศักยภาพทางเศรษฐกิจยังคงขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพในการจำกัดการแพร่ระบาดของไวรัส ความสามารถในการคว้าโอกาสจากการฟื้นตัวของการค้าระหว่างประเทศ และศักยภาพของรัฐบาลในการให้ความสนับสนุนทางด้านงบประมาณและการเงิน

โดยคาดการณ์การเติบโตของภูมิภาคจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดจาก 1.2% ในปี 2563 เป็น 7.6% ในปี 2564 แต่ก็มีแนวโน้มที่การฟื้นตัวจะดำเนินไปด้วยความเร็วที่แตกต่างกัน 3 ระดับ จีนและเวียดนามคาดว่าจะเติบโตมากขึ้นไปอีกในปี 2564 คือ 8.1% และ 6.6% ตามลำดับ จาก 2.3% และ 2.9% ในปี 2563 เศรษฐกิจของประเทศขนาดใหญ่อื่นๆ ในภูมิภาคที่บอบช้ำจากวิกฤตมากกว่า จะเติบโตประมาณ 4.6% โดยเฉลี่ย ซึ่งช้ากว่าอัตราการเติบโตก่อนวิกฤตเล็กน้อย การฟื้นตัวคาดว่าจะใช้เวลานานในประเทศที่พึ่งการท่องเที่ยว

นอกจากนี้ ในปี 2563 ความยากจนในภูมิภาคไม่ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบหลายทศวรรษ ประมาณ 32 ล้านคนในภูมิภาคไม่สามารถออกจากความยากจนได้ (เส้นความยากจน $5.50/วัน) เนื่องจากการแพร่ระบาด

“การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ทำให้การลดความยากจนต้องหยุดชะงักไปและความเหลื่อมล้ำเพิ่มสูงขึ้น” วิคตอเรีย ควาควา รองประธานธนาคารโลกประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก กล่าวและว่า ขณะที่เริ่มมีการฟื้นตัวในปี 2564 ประเทศต่างๆ มีความจำเป็นต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อคุ้มครองกลุ่มประชากรที่อยู่ในภาวะเสี่ยงหรือเปราะบางและดูแลให้เกิดการฟื้นฟูที่ครอบคลุม คำนึงถึงสภาพแวดล้อม และพร้อมรับมือและปรับตัวกับอุปสรรคใหม่ที่เข้ามา
กำลังโหลดความคิดเห็น