xs
xsm
sm
md
lg

"ซีคอน" วางเป้ายอดขายเพิ่ม 1,700 ล้านบาท ดันบริษัทลูกเจาะสร้างบ้านฟรีสไตล์โต 20%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นายมนู ตระกูลวัฒนะกิจ
ธุรกิจรับสร้างบ้านแข่งเดือด "ซีคอน" ปรับกลยุทธ์แตกไลน์บริษัทใหม่ "Seacon ID" ให้บริการออกแบบและสร้างบ้านฟรีสไตล์ให้แก่ลูกค้า วางเป้าปีแรก 200 ล้านบาท จากยอดขายรวมทั้งปี 1,700 ล้านบาท

นายมนู ตระกูลวัฒนะกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีคอน จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 เมื่อปี 2563 ที่ผ่านมา กลุ่มบ้านระดับราคา 2-4 ล้านบาท หายไป 30% แต่หากเป็นช่วงการประกาศล็อกดาวน์ ยอดจองหายไป 50% ซึ่งหลังเดือนมิถุนายน เป็นต้นมา ลูกค้ากลับมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในยอดจองผ่านช่องทางออนไลน์มีการเติบโตค่อนข้างมาก โดยเฉพาะบ้านระดับราคา 5-20 ล้านบาท จากเดิมในปี 2562 ยอดขายจากกลุ่มออนไลน์ใกล้เคียง 200 ล้านบาท แต่ในปีที่ผ่านมา ยอดจองเพิ่มมาอยู่ที่ 300 ล้านบาท โดยในปี 64 บริษัทจะโรดโชว์ถี่ขึ้น และทำตลาดออนไลน์มากขึ้น

"ตลาดรับสร้างมีการแข่งขันที่สูง เป็นตลาด Red Ocean แม้ปลาจะเยอะ แต่ปลาใหญ่ ปลาฉลาม กินปลาเล็ก ถึงแม้บริษัทจะเป็นปลาใหญ่ แต่ทางซีคอนก็ต้องมองหาตลาดใหม่ หรือ Blue Ocean บริษัทฯ จึงแตกไลน์บริษัทลูก ภายใต้ชื่อ บริษัท ซีคอน ไอดี จำกัด ขึ้นมาเพื่อเข้าไปรับงานออกแบบก่อสร้างบ้านให้ลูกค้าที่มีแบบบ้านอยู่แล้ว หรือลูกค้าที่ต้องการไอเดียในการออกแบบบ้าน และรับงานจากสถาปนิกในการสร้างบ้าน ปัจจุบันพบลูกค้าสัดส่วน 20% มีแบบบ้านมาให้บริษัทช่วยก่อสร้าง และบางส่วนมีไอเดียแต่ไม่มีแบบบ้าน จึงเป็นที่มาของการก่อตั้ง Seacon ID  ขึ้นมา ซึ่งลูกค้าให้ความสนใจบ้านขนาด 600 ตารางเมตรขึ้นไป ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาลูกค้าประมาณ 30 ราย แบ่งเป็นลูกค้าที่มีแบบแล้ว 25 ราย และยังไม่มีไอเดียในการออกแบบ 5 ราย คิดในราคา 17,000-20,000 บาท/ตารางเมตร ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสเปกของวัสดุก่อสร้าง โดยตั้งเป้ายอดจองจาก Seacon ID ในปีแรกที่ 200 ล้านบาท จากเป้ายอดขายรวมทั้งบริษัท 1,700 ล้านบาท"

ทั้งนี้ ในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตลาดบ้านขนาดเล็ก ขนาดต่ำกว่า 200 ตารางเมตร (ตร.ม.) ราคา 2-4 ล้านบาท ปรับสัดส่วนลดลง จากเดิมมีอัตราการเติบโตถึง 30% เหลือเพียง 10% ราคาบ้านระดับกลาง ขนาด 200-300 ตร.ม. ราคา 4-7 ล้านบาท ยังทรางตัว และบ้านระดับราคาสูง ขนาด 350 ตร.ม.ขึ้นไป ตั้งแต่ 7 ล้านบาทขึ้นไป เติบโตจาก 30% เป็น 60% ปัจจุบันซีคอนฯ มีแบบบ้านสแตนดาร์ดให้เลือกประมาณ 250 แบบ

นอกจากนี้ ซีคอน ยังพยายามค้นหานวัตกรรมวัสดุก่อสร้างใหม่ๆ เพิ่มคุณภาพการก่อสร้างให้ลูกค้าอีกด้วย เนื่องจากสภาวะสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไป ทำให้เราต้องเสาะหาเทคโนโลยีใหม่ๆ มาบริการให้ลูกค้าเพื่ออยู่สบายและความทนทาน โดยมีเทคโนโลยี “บ้านเย็นอยู่สบายปลอดภัยจากมลพิษและเชื้อโรค” จากญี่ปุ่น มาช่วยระบายความร้อนและลดความชื้นด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ เพิ่ม Oxygen ที่ดีให้แก่ลูกค้า

“ช่วงล็อกดาวน์มีผลกระทบบ้าง แต่เรามีช่องทาง Digital Marketing มาช่วยชดเชยงาน Exhibition, Roadshow และ Event ที่ขาดหายไปได้บ้าง โดยยอดจองตลอดปี 2563 เราทำได้ที่ 1,330 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าประมาณ 10% แต่เรามั่นใจว่าตลาดรับสร้างบ้านยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบ้านขนาดใหญ่ หรือขนาด 5 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งซีคอน คาดว่านี่จะเป็นทิศทางของตลาดรับสร้างบ้านในปีนี้ด้วย” นายมนู กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น