ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (EIC SCB) คาดการณ์คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.5% ต่อเนื่องตลอดปี 2564 หลังจากมีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งล่าสุด แต่หากภาวะการเงินไทยปรับตึงตัวขึ้นอีกต่อเนื่อง ธปท. อาจผ่อนคลายนโยบายการเงินผ่านการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มเติมได้
โดย กนง. มีแนวโน้มคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ อีกทั้งการดำเนินนโยบายจะเน้นไปที่การกระจายสภาพคล่องที่มีอยู่สูงไปสู่ธุรกิจที่ฟื้นตัวช้าและครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบได้อย่างตรงจุดมากขึ้น โดยล่าสุด ธปท. ได้ร่วมมือกับกระทรวงการคลังและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการออกมาตรการให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 เพื่อดูแลผู้ประกอบธุรกิจที่มีศักยภาพให้สามารถประคับประคองกิจการ พยุงระดับการจ้างงาน และมีโอกาสในการฟื้นฟูศักยภาพ รองรับโลกยุคหลังวิกฤต COVID-19 ได้
ทั้งนี้ จุดที่น่ากังวลคือภาวะการเงินที่ปรับตึงตัวขึ้นจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่เพิ่มขึ้นเร็ว ซึ่ง EIC SCB มองว่าในระยะต่อไป หากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ยังคงปรับสูงขึ้นต่อเนื่องจนกดดันให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยปรับสูงขึ้นอีก ทำให้ภาวะการเงินไทยอาจปรับตึงตัวเพิ่มขึ้น ธปท. ก็อาจจะพิจารณาเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มเติมได้ โดยในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในเดือนมีนาคม 2563 อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย อายุ 10 ปี ปรับสูงขึ้นจากจุดต่ำสุดที่ 0.81% สู่ระดับ 1.72% พบว่า ธปท. ได้เข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลเป็นวงเงินทั้งสิ้น 8.5 หมื่นล้านบาท สำหรับในปี 2564 นั้น ธปท. ได้เข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลด้วยวงเงินเพียง 8 พันล้านบาทในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ทั้งนี้ EIC มองว่า หากมีความจำเป็น ธปท. ยังมีขีดความสามารถในการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลได้อีกในระยะต่อไป นอกจากนี้ หากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยปรับสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ธปท. ยังมีเครื่องมือในการเข้าดูแลสถานการณ์เพิ่มเติมได้ เช่น อาจพิจารณาใช้มาตรการ Yield Curve Control (YCC) เพื่อตรึงให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยอยู่ในระดับต่ำ เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยที่เป็นไปอย่างช้าๆ และยังมีความเปราะบางสูง