สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 19 มี.ค.2564

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันศุกร์ (19 มี.ค.) และลดลงในรอบสัปดาห์นี้ โดยหุ้นกลุ่มธนาคารถูกกดดันหลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เปิดเผยว่า จะไม่ต่ออายุโครงการผ่อนคลายด้านเงินทุนสำหรับธนาคารพาณิชย์ และตลาดยังถูกถ่วงลงจากรายงานข่าวที่ว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ กำลังทำการตรวจสอบบริษัทวีซ่า อิงค์เกี่ยวกับพฤติกรรมต่อต้านการแข่งขัน อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้นสวนทางตลาด และช่วยหนุนดัชนี Nasdaq ปิดบวก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,627.97 จุด ลดลง 234.33 จุด หรือ -0.71% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,913.10 จุด ลดลง 2.36 จุด หรือ -0.06% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,215.24 จุด เพิ่มขึ้น 99.07 จุด หรือ +0.76%

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อวันศุกร์ (19 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการประกาศล็อกดาวน์รอบใหม่ในฝรั่งเศสเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่เป็นไปอย่างล่าช้าในบางประเทศ โดยหุ้นกลุ่มธนาคารนำตลาดปรับตัวลง

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 423.35 จุด ลดลง 3.24 จุด หรือ -0.76%

ดัชนี CAC 40 ปิดที่ 5,997.96 จุด ลดลง 64.83 จุด หรือ -1.07%, ดัชนี DAX ปิดที่ 14,621.00 จุด ลดลง 154.52 จุด หรือ -1.05% และดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,708.71 จุด ลดลง 70.97 จุด หรือ -1.05%

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงเมื่อวันศุกร์ (19 มี.ค.) ที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปลายเดือน ก.พ. ขณะที่การลดลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ถ่วงหุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง ส่วนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มพลังงานปรับตัวลงตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์

ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,708.71 จุด ลดลง 70.97 จุด หรือ -1.05%

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (19 มี.ค) โดยปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 6 วัน หลังได้แรงหนุนบางส่วนจากสถานการณ์ตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลาง แต่ราคาน้ำมันยังคงร่วงลงมากที่สุดในรอบสัปดาห์นี้นับตั้งแต่เดือน ต.ค. เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่า การล็อกดาวน์รอบใหม่ และความล่าช้าในการฉีดวัคซีนในบางประเทศของยุโรปจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้น 1.42 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 61.42 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ร่วงลง 6.4% ในรอบสัปดาห์นี้

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือน พ.ค. เพิ่มขึ้น 1.25 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 64.53 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ร่วงลง 6.8% ในรอบสัปดาห์นี้

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (19 มี.ค.) ที่ระดับสูงสุดในรอบราว 3 สัปดาห์ โดยได้แรงหนุนจากการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ชะลอตัวลงหลังพุ่งขึ้นในวันพฤหัสบดี และสัญญาทองยังได้แรงหนุนจากความวิตกเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อ และการร่วงลงของตลาดหุ้นในสัปดาห์นี้

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้น 9.2 ดอลลาร์ หรือ 0.53% ปิดที่ 1,741.7 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 25 ก.พ. และในรอบสัปดาห์นี้ ปรับตัวขึ้น 1.3%

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน พ.ค. ลดลง 3 เซนต์ หรือ 0.11% ปิดที่ 26.321 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาแพลทินัมส่งมอบเดือน เม.ย. ลดลง 17.4 ดอลลาร์ หรือ 1.43% ปิดที่ 1,200.1 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน มิ.ย. ลดลง 31.90 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 2,630.90 ดอลลาร์/ออนซ์

-- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (19 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เปิดเผยว่า จะไม่ต่ออายุโครงการผ่อนคลายด้านเงินทุนสำหรับธนาคารพาณิชย์

ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.07% แตะที่ 91.9180 เมื่อคืนนี้

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9291 ฟรังก์ จากระดับ 0.9284 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 108.88 เยน จากระดับ 108.99 เยน และดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2494 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2507 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1909 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1914 ดอลลาร์, เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3870 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3929 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7748 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7764 ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 32,627.97 จุด ลดลง 234.33 จุด, -0.71%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 3,913.10 จุด ลดลง 2.36 จุด, -0.06%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 13,215.24 จุด เพิ่มขึ้น 99.07 จุด, +0.76%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,708.71 จุด ลดลง 70.97 จุด, -1.05%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,997.96 จุด ลดลง 64.83 จุด, -1.07%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 14,621.00 จุด ลดลง 154.52 จุด, -1.05%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 49,858.24 จุด เพิ่มขึ้น 641.72 จุด +1.30%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 6,356.16 จุด เพิ่มขึ้น 8.33 จุด, +0.13%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,626.19 จุด ลดลง 1.80 จุด,-0.11%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,436.10 จุด ลดลง 194.75 จุด, -2.94%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,134.54 จุด ลดลง 3.12 จุด ,-0.10%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 28,990.94 จุด ลดลง 414.78 จุด หรือ 1.41%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,404.66 จุด ลดลง 58.40 จุด หรือ -1.69%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 16,070.24 จุด ลดลง 217.60 จุด, -1.34%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 3,039.53 จุด ลดลง 26.48 จุด หรือ -0.86%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 29,792.05 จุด ร่วงลง 424.70 จุด หรือ -1.41%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 6,708.20 จุด ลดลง 37.70 จุด หรือ -0.56%

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 6,959.60 จุด ลดลง 44.00 จุด หรือ -0.63%