xs
xsm
sm
md
lg

"แอสเซทไวส์" เผยปี 64 ผุด 6 โครงการ 10,850 ล้าน ปั้นพอร์ตยอดขาย-รายได้รองรับแผนกระจายหุ้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน)
"แอสเซทไวส์” กางแผนธุรกิจปี 64 เดินหน้าเปิด 6 โครงการใหม่ ปั้นสต๊อกยอดขายและรายได้รองรับแผนกระจายหุ้น แจงปี 63 รายได้ 4,205 ล้านบาท กำไรสุทธิ 20.6% ชูคอนเซ็ปต์ The NEXT Paradigm ลุยตลาดปีนี้

นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปี 64 บริษัทฯ ยังคงมุ่งพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์และรุกตลาดภายใต้แนวคิด The NEXT Paradigm ที่ตอบรับการเปลี่ยนแปลงของวิถีชีวิต หลังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 โดยแอสเซทไวส์ฯ ได้แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการสร้างความแข็งแกร่งให้แก่บริษัทในฐานะผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มุ่งมั่นจะเชื่อมต่อความสุขของการอยู่อาศัยเพื่อให้เกิดความสุขอย่างยั่งยืน

โดยในปีนี้ บริษัทได้วางแนวการดำเนินธุรกิจที่เติบโตอย่างยั่งยืนผ่าน 4 กลยุทธ์ ได้แก่ 1.Facilities for New Lifestyle ให้ความสำคัญกับพื้นที่ส่วนกลาง เพื่อให้มีพื้นที่รองรับการท้ำงานและการเรียนที่บ้าน 2.Health Coricem ยอดการดูแลสุขภาพของลูกบ้าน สร้างสรรค์ Heaith Station จัดเตรียมอุปกรณ์ตรวจสุขภาพเปื้องต้นไว้ให้แก่ลูกบ้าน 3.Innovation for Living เพิ่มนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัย เพื่อให้เกิดทั้งความสุขและความ สะดวกสบายในที่พัก 4.Strengthen Sustainability สร้างความยั่งยืนทั้งด้านสังคม และสิ่งแวดล้อม

“ปีนี้บริษัทมีแผนจะเปิดตัว 6 โครงการใหม่ แบ่งเป็นโครงการแนวสูง 5 โครงการ ประกอบด้วย เคฟ ศาลายา, โมดิช ไรห์ม คลาวด์, แอทโมซ บางนา, เคยเอวา, โมดิซศรีราชา และโครงการแนวราบ 1 โครงการบ้านมาริบุรี โฮมออฟฟิศ ลาดพร้าว 41 รวมมูลค่าโครงการทั้งสิ้น 10,850 ล้านบาท”

นายกรมเชษฐ์ กล่าวว่า ปีที่ผ่านมาเป็นปีแห่งโอกาสของ “แอสเซทไวส์” ทั้งการพัฒนาโปรดักต์ การเติบโตทางด้านยอดขาย และกำไร ส่งผลให้ ณ สิ้นปี 63 บริษัทมีโครงการที่พัฒนาไปแล้ว 33 โครงการ คิดเป็นมูลค่ามูลค่า 30,400 ล้านบาท โดยบริษัทสามารถทำยอดรับรู้รายได้ 4,205 ล้านบาท เติบโต 60% มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 44.2% และมีกำไรสุทธิ 871 ล้านบาท เติบโต 2.6% จากปีก่อนหน้า

นอกจากนี้ บริษัทประสบความสำเร็จในการเปิดตัว 3 โครงการใหม่ คือ โครงการโมดิช ไรห์ม รามคำแหง และบ้านภูริบูรี คอร์ทยาร์ต รวมมูลค่า 3,837 ล้านบาท โดยสามารถสร้างยอดขายจากโครงการใหม่ 2,407 ล้านบาท ทำให้มีแบ็กล็อกในมือ 7,848 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่องในปี 64-66 ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีสต๊อกรอการขายโครงการพร้อมอยู่ 4,094 ล้านบาท ส่งผลให้ปี 64 นี้จะมีโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณ 6,634 ล้านบาท


กำลังโหลดความคิดเห็น