เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น กำไรงวดสิ้นปีแตะ 696 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการ EBITDA โต 32.2% สะท้อนบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้บริหารมั่นใจปี 64 จ่อ COD โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Leo 1 และโครงการพลังงานลมในเวียดนาม ดันกำลังการผลิตแตะ 200 MW หนุนรายได้-กำไรนิวไฮต่อเนื่อง บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลเป็นหุ้นในอัตรา 10 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล จ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.011111 บาท/หุ้น พร้อมแจก SSP-W1 ให้ผู้ถือหุ้นเดิม ในสัดส่วน 10 : 1 และ SSP-W2 ให้ผู้ถือหุ้นเดิม ในสัดส่วน 4 : 1
นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SSP) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2563 มีรายได้รวม 1,933 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 452 ล้านบาท หรือ 30.5% เทียบปี 2562 มีรายได้รวม 1,481.0 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ765 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 209 ล้านบาท หรือ 37.5% เทียบปี 2562 มีกำไรสุทธิ 557 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) อยู่ที่ 1,523 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.2% สะท้อนการบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“รายได้และกำไรที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดในปี 2563 ได้รับปัจจัยหนุนจากกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากบริษัทฯ รับรู้รายได้จากโครงการเดิม และโครงการใหม่ Yamaga ขนาดกำลังการผลิต 30 เมกะวัตต์ ส่งผลให้กำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญาในมือที่เพิ่มเป็น 143 เมกะวัตต์ เทียบกับปี 2562 อยู่ที่ 114 เมกะวัตต์” นายวรุตม์ กล่าว
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2564 บริษัทฯยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าในต่างประเทศตามแผน โดยในส่วนของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Leo 1 ในประเทศญี่ปุ่น ขนาดกำลังการผลิต 20 เมกะวัตต์ จะเริ่มจ่ายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ในไตรมาส 3 ปี 2564 และโครงการพลังงานลมขนาดกำลังการผลิต 48 เมกะวัตต์ ในประเทศเวียดนาม จะเริ่ม COD ในไตรมาส 4 ปี 2564
“ในปีนี้หลังจากที่เรา COD โรงไฟฟ้าในญี่ปุ่น และเวียดนาม ตามแผนจะทำให้กำลังการผลิตไฟฟ้าในมือเพิ่มขึ้นเป็น 200 เมกะวัตต์ ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Leo 2 ในประเทศญี่ปุ่น ขนาดกำลังการผลิต 17 เมกะวัตต์ ยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาโครงการ และคาดว่าจะ CODได้ในปี 2566 โดยบริษัทฯ วางเป้าภายใน 3-5 ปีข้างหน้า กำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเป็น 400 เมกะวัตต์ ผลักดันผลการดำเนินงานนิวไฮต่อเนื่อง” นายวรุตม์ กล่าว
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายปันผลสำหรับงวดผลการดำเนินงานในปี 2563 เป็นหุ้นในอัตรา 10 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล จ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.011111 บาท/หุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 13 พฤษภาคม 2564 และแจกวอร์แรนต์ (SSP-W1) ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 10 หุ้นสามัญต่อ 1 หน่วย มีอายุ 8 เดือน อัตราการใช้สิทธิ 1 หน่วยต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ ที่ราคาใช้สิทธิ 12.00 บาท ขึ้นเครื่องหมาย XW วันที่ 14 มิถุนายน 2564 และ (SSP-W2) ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 4 หุ้นสามัญต่อ 1 หน่วย มีอายุ 3 ปี 11 เดือน อัตราการใช้สิทธิ 1 หน่วยต่อ 1หุ้นสามัญใหม่ ที่ราคาใช้สิทธิ 18-24 บาท ขึ้นเครื่องหมาย XW วันที่ 14 มิถุนายน 2564