ตลาดหุ้นเอเชียเปิดวันนี้ในแดนลบ โดยได้รับแรงกดดันจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (18 ก.พ.) หลังสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่สูงเกินคาด ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับตัวเลขเงินเฟ้อที่ส่งสัญญาณพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ยุติการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน
ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,661.78 จุด ลดลง 13.58 จุด หรือ -0.37%, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 29,970.59 จุด ลดลง 265.50 จุด หรือ -0.88% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 30,483.46 จุด ลดลง 111.81 จุด หรือ -0.37%
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกพุ่งขึ้นสู่ระดับ 861,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 773,000 ราย
ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อมูลที่ส่งสัญญาณถึงภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐฯ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ระบุว่า ดัชนีราคานำเข้าพุ่งขึ้น 1.4% เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือน มี.ค. 2555 หลังจากเพิ่มขึ้น 1.0% ในเดือน ธ.ค. นอกจากนี้ ดัชนีราคานำเข้าเดือน ม.ค.ยังสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1%
นักวิเคราะห์ในสหรัฐกล่าวว่า ตัวเลขเงินเฟ้อที่ส่งสัญญาณพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้นักลงทุนกังวลว่าอาจจะเป็นปัจจัยที่ผลักดันให้เฟดยุติการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน นอกจากนี้ ความกังวลในเรื่องเงินเฟ้อยังส่งผลให้นักลงทุนเทขายทำกำไรหุ้นบริษัทเทคโนโลยีที่มีมูลค่าสูง หลังจากที่หุ้นเหล่านี้ทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ตลาดในภูมิภาคยังได้รับแรงกดดันหลังจากที่สำนักงานสถิติญี่ปุ่นรายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พื้นฐานของญี่ปุ่นเดือน ม.ค. ลดลง 0.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี และทำสถิติลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 เนื่องจากราคาพลังงานที่ปรับตัวลง