หุ้นไทยปิดพุ่ง 14.37 จุด ตามตลาดในต่างประเทศ คาดหวังมาตรการกระตุ้น ศก.สหรัฐฯ หนุน GDP โต ขณะที่ตลาดหุ้นไทยยังได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 และปัจจัยการเมืองในประเทศ
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ได้รับโมเมนตัมเชิงบวกจากต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นทั่วโลกต่างปรับตัวขึ้นถ้วนหน้า ทั้งภูมิภาคเอเชียที่บวกเฉลี่ย 0.8% และตลาดในยุโรปบวกเฉลี่ย 0.7% เช่นเดียวกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์สปรับขึ้น จากความคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เป็นหลัก และทางฝ่ายวิจัยของโนมูระคาดการณ์ว่า เม็ดเงินทั้งหมดจะได้ข้อยุติที่ 1.7 ล้านล้านเหรียญ จึงทำการปรับคาดการณ์ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐฯ ในปี 64-65 ขึ้นสู่ 5.2% และ 5.4% จากเดิม 4.2% และ 5.0% ส่งผลดีต่อความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity) ให้สูงขึ้น
อย่างไรก็ดี ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 และปัจจัยการเมืองในประเทศ ส่งผลให้หุ้นในกลุ่มแบงก์ ท่องเที่ยว และค้าปลีกถ่วงตลาด ขณะที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ออกมาระบุว่าอาจเพิ่มวันกักตัวผู้ที่เดินทางเข้ามาจากต่างประเทศเป็น 21 วัน เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่
นอกจากนี้ หุ้น บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR) เริ่มนิ่งหลังจากตอบรับปัจจัยบวกไปมากแล้วในการเข้าสู่การคำนวณของ MSCI และ SET50 Index พร้อมให้จับตาการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยเฉพาะบริษัทในกลุ่ม ปตท.ที่จะทยอยออกมา
ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,522.72 จุด เพิ่มขึ้น 14.37 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.95% มูลค่าการซื้อขาย 106,651.80 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (16 ก.พ.) นายกรภัทร กล่าวว่า ตลาดคงจะแกว่งไซด์เวย์ โดยมีแนวรับ 1,500 จุด ส่วนแนวต้าน 1,529-1,535 จุด