CPNREIT ชี้แจงการกำหนดราคาเสนอขายสุดท้าย (Final Price) ของหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนจะผ่านกระบวนการ Bookbuilding โดยราคาสุดท้ายจะสะท้อนราคาตลาด รวมทั้งได้พิจารณาเงินจ่ายผู้ถือหน่วยทรัสต์ครั้งล่าสุดสำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2563 (1 ต.ค.-31 ธ.ค.63) ทั้งนี้ ราคาสุดท้ายจะเป็นราคาเดียวกันกับราคาจองซื้อโดยนักลงทุนสถาบัน คาดหลังเพิ่มทุนช่วยเพิ่มศักยภาพกองทรัสต์ หนุนประมาณการเงินจ่ายแก่ผู้ถือหน่วยสูงกว่า 7% พร้อมเปิดให้ประชาชนทั่วไปจองซื้อถึง 16 กุมภาพันธ์นี้ ที่ธนาคาร SCB และ KTB (ทุกสาขา) รวมทั้งสำนักงานใหญ่ของ Maybank Kim Eng หรือจองซื้อผ่านเว็บไซต์ https://moneyconnect.krungthai.com
น.ส.วีณา เลิศนิมิตร ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานวาณิชธนกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย เปิดเผยว่า CPNREIT จะเปิดให้ประชาชนทั่วไปจองซื้อหน่วยทรัสต์เพิ่มทุน จนถึงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2564 (ตั้งแต่เวลาเปิดทำการ ถึง 15.30 น.) ที่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ทุกสาขาทั่วประเทศ รวมทั้งที่สำนักงานใหญ่ของบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือจองซื้อผ่านระบบออนไลน์ที่เว็บไซต์ https://moneyconnect.krungthai.com ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โดยจองซื้อที่ราคาสูงสุด 19.50 บาทต่อหน่วย ทั้งนี้ CPNREIT จะกำหนดราคาเสนอขายสุดท้าย (Final Price) โดยผ่านกระบวนการสำรวจความต้องการจองซื้อหน่วยทรัสต์เพิ่มทุน (Bookbuilding) จากนักลงทุนสถาบันและนิติบุคคลที่เข้าร่วม หากราคาเสนอขายสุดท้ายต่ำกว่าราคาจองซื้อสูงสุด ผู้จัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์จะคืนเงินส่วนต่างให้แก่ผู้จองซื้อทุกราย และยังคาดว่าจะทำให้ประมาณการเงินจ่ายแก่ผู้ถือหน่วยสูงกว่าร้อยละ 7.1 (อ้างอิงจากประมาณการงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จปี 2564 และปรับราคาจองซื้ออ้างอิงที่ราคาเสนอขายสูงสุด)
สำหรับการกำหนดราคาเสนอขายสุดท้ายนั้น เชื่อว่าจะเป็นราคาที่เหมาะสม เนื่องจากเป็นการกำหนดราคาจากกระบวนการสำรวจความต้องการจองซื้อจากนักลงทุนสถาบันและนิติบุคคลที่เข้าร่วม (Bookbuilding) ซึ่งจะสะท้อนปัจจัยราคาตลาดของหน่วยทรัสต์ ณ ช่วงเวลา Bookbuild พ่วงปัจจัยการที่ผู้จองซื้อหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนไม่ได้รับเงินจ่ายผู้ถือหน่วย สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2563 (1 ต.ค.-31 ธ.ค.2563) ในอัตรา 0.2612 บาทต่อหน่วย
ขณะที่นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหน่วยทรัสต์ กล่าวว่า CPNREIT เป็นกองทรัสต์ชั้นนำและมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) ใหญ่ที่สุดในกองทรัสต์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และมีสภาพคล่องในการซื้อขายที่ดี โดยการเข้าลงทุนทรัพย์สินเพิ่มเติมของ CPNREIT ในโครงการศูนย์การค้าเซ็นทรัลมารีนา และศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ลำปาง จะเพิ่มความมั่นคงของผลการดำเนินงานและเป็นการกระจายการลงทุนในโครงการศูนย์การค้าที่มีศักยภาพในทำเลที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น ดังนั้น การลงทุนในหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนในครั้งนี้จะเป็นโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจ เนื่องจากผลการดำเนินงานของ CPNREIT เริ่มฟื้นตัว ในขณะที่ราคาหน่วย CPNREIT ในตลาดขณะนี้อยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับราคาตลาดในช่วงก่อนเกิด COVID-19
