xs
xsm
sm
md
lg

CLASS CAFÉ เตรียมยื่นไฟลิ่งเข้าตลาด คาดเทรดปี 65 เผยโควิด-19 หนุนรายได้โต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการรายวัน 360 - คลาสคอฟฟี่ แต่งตัวเข้าเตรียมยื่นไฟลิ่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์คาดเทรดปี 65 เผย CLASS CAFE ออกสตาร์ทปีนี้ด้วยการเปิดตัว CLASS GO PLATFORM เน้นการใช้เทคโนโลยีลํ้าสมัยทางด้านการเรียนรู้ Data ตั้งเป้ารายได้โตเกินกว่า 1 เท่าตัวจากปีที่ผ่านมา ผลดีจากการระบาดของไวรัสโควิด-19

ปฏิเสธไม่ได้ว่าเทคโนโลยีที่มีความก้าวหน้าเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกวันนี้ จะสามารถช่วยให้การดำเนินชีวิตมีความสะดวกสะดวกสบายโดยเฉพาะการมาถึงของเทคโลโลยียุค 5G หรือ Generation 5 ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็น รุ่นที่ 5 ของการสื่อสารที่อนาคตที่จะไม่ใช่แค่เพียงโทรศัพท์มือถืออย่างเดียวเท่านั้นแล้ว แต่จะรวมไปถึงอุปกรณ์อื่นๆ ทุกชนิดที่สามารถเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตได้ หรือเรียกกันโดยทั่วไปว่าInternet of Things (IoT) ยกตัวอย่างเช่น หากเราเดินหน้าเข้าสู่ยุคเทคโนโลยี 5G โดยสมบูรณ์แบบ โดยเฉพาะล่าสุดที่เริ่มมีให้เห็นกันบ้างแล้วคือเทคโนโลยี IoT ที่เข้ามามีบทบาทกับชีวิตประจำวันในรูปแบบต่างๆ มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำงานของอุปกรณ์ที่เชื่อมอินเตอร์เน็ตที่ไม่ไช่เพียงแค่สมาร์ทโฟน อุปกรณ์ที่เชื่อมอินเตอร์เน็ตผ่าน 5G ก็จะส่งข้อมูลหากันได้อย่างมีประสิทธิภาพและหลากหลาย ยกตัวอย่างเช่น รถยนต์ไร้คนขับ (Driverless Car) ที่ในอนาคตจะสามารถโต้ตอบกับรถอีกคัน และถนน (Smart Road) ผ่านเซนเซอร์ โดยเชื่อมต่อส่อสารโอนข้อมูลระหว่างกันระหว่างกันผ่านเทคโนโลยี 5G

เช่นเดียวกับ CLASS CAFÉ สตาร์ทอัพรูปแบบใหม่ที่นำความเป็นร้านกาแฟในไลฟ์สไตล์สัญชาติไทย ซึ่งกําลังได้รับความนิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ทั้งนักเรียน นักศึกษาและกลุ่มคนทำงานหลากหลายอาชีพเข้าไว้ด้วยกันกับเทคโนโลยี โดยเฉพาะการมุ่งเน้นความเป็น Co–Working Space หรือพื้นที่อัจฉริยะที่เป็นแหล่งพบปะ พูดคุย เจรจาธุรกิจ หรือสถานที่ในการสร้างสรรค์งานของคนรุ่นใหม่ให้ทํางานอย่างสะดวกสบายและมีความสุขกับบริการที่สอดรับกับทุกความต้องการ

มารุต ชุ่มขุนทด ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท คลาสคอฟฟี่ จํากัด และเจ้าของร้านกาแฟ CLASS CAFÉ  เล่าให้ “หนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน 360 ํ ” ฟังว่า บริษัทได้เปิดดำเนินกิจการร้านกาแฟ ชื่อว่า Class Café โดยก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2556 ในนามบริษัท คลาส คอฟฟี่ จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 8 ล้านบาท โดยเปิดสาขาแรกที่ จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งดำเนินธุรกิจในรูปแบบ Open Coffee Platform (O.C.P) ที่เน้นธุรกิจกาแฟระดับพรีเมียม และธุรกิจ Co - working Space ที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชม. ด้วยวางจุดยืนให้เป็น Community Lifestyle ที่เน้นการสร้างบรรยากาศในรูปแบบของ Digital Lifestyle ซึ่งตกแต่งร้านให้มีความทันสมัยในแนว Industrial Loft เน้นการใช้โทนสี เทา-ดำ รวมทั้งเพลงที่ใช้เปิดในร้านก็เป็นเป็นแนว EDM (Electronic Dance Music) ที่เน้นความคึกคัก กระฉับกระเฉง รวมไปถึงสไตล์การให้บริการของพนักงานทุกคน เพื่อสร้างความมีชีวิตชีวา และใส่ใจลูกค้าอย่างเต็มที่ โดยปัจจุบันClass café มีจำนวนสาขาทั้งหมด 21 สาขาแบ่งเป็นจังหวัดนครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี บุรีรัมย์ กรุงเทพ นครปฐม ปทุมธานี และนอกจากนี้ ยังได้มีการวางสาขาอยู่ในพื้นที่มหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศไทย อาทิเช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ม.ขอนแก่น ม.ศิลปากร ม.มหิดล ซึ่งจุดที่ทำให้เกิดความแตกต่างของClass Café คือการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการดำเนินงานธุรกิจ โดยการใช้ Technology บน Application CLASS CAFÉ ในการสั่งเครื่องดื่มซึ่งมี Software ระบบหลังบ้านทำให้สามารถ Set Up ระบบร้านทั้งหมดได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีการใช้ Machine Learning ที่ช่วยเก็บข้อมูลลูกค้า เช่น การใช้ระบบพยากรณ์อากาศเข้ามาช่วยวิเคราะห์ การวางแผนจัดทำโปรโมชั่นของแต่ละสาขา ให้สอดคล้องกับสภาพภูมิอากาศในแต่ละท้องที่ โดยรายได้หลักของกิจการมาจากการขายเครื่องดื่ม ซึ่งบริษัทเน้นคัดสรรวัตถุดิบเกรดพรีเมี่ยมที่นำมาให้บริการแก่ลูกค้า นอกเหนือจากความอร่อยในเมนูเครื่องดื่มประเภทต่างๆ

“หลังจากวิกฤตโควิด – 19 เมื่อปี พ.ศ.2563 Class Café จึงปรับการใช้ประโยชน์ จาก Platform เดิม เช่น ไม่จำกัดตัวอยู่เพียงเครื่องดื่มกาแฟ แต่กระจายตัวไปสู่สินค้าประเภทอื่น ๆ เช่น น้ำผลไม้สกัดเย็น, โยเกิร์ต, เบเกอรี่, หูฟัง, ลู่วิ่ง, อาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน เช่นข้าวขาหมู ข้าวหมูแดง ข้าวมันไก่ โดยได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบของแพคเกจจิ้ง ให้เข้ากับสถานการณ์ในปัจจุบัน จากเดิมที่บริษัทเน้นขายเป็น “แก้ว” ก็ปรับมาเป็น “ขวดปิดผนึก” รวมถึงการเปลี่ยนคู่แข่งที่มีอยู่ในตลาดให้กลายมาเป็นคู่ค้า พร้อมกับคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่จะทำให้รสชาติของเครื่องดื่มไม่เปลี่ยนแปลง และมีความสดใหม่ คงคุณค่าของสารอาหารและอยู่ได้ยาวนานมากขึ้นสูงสุดถึง 30 วัน ในตู้เย็นของลูกค้า ทำให้บริษัทเปลี่ยนแนวคิด จากแต่ก่อนคิดว่าจะต้องมีหลายสาขาถึงจะดี แต่พอเจอวิกฤตโควิด-19 ตอนนี้เปลี่ยนมุมมองวิธีคิดใหม่คือ มีสาขาน้อยแต่เพิ่มช่องทางการจำหน่ายด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลให้เยอะขึ้นแบบนี้ถึงจะดีกว่า การจำหน่ายสินค้าจาก ตู้ AI CLASS GO เป็นก้าวสำคัญในการนำนวัตกรรมทางเทคโนโลยีมาตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในการลดการสัมผัสและลดการถือเงินสดในมือ ซึ่งการออกตู้จำหน่ายสินค้า AI CLASS GO ครั้งนี้เราได้พันธมิตรที่ดีอย่าง TRUE DIGITAL เป็นผู้พัฒนาระบบอัจฉริยะ และเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงด้วยสัญญาณจาก TRUE 5G”

ขณะที่ต้นปี 2021 นี้ CLASS CAFÉ ออกสตาร์ทด้วยการเปิดตัว CLASS GO PLATFORM กระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการอย่างใส่ใจและรู้ใจลูกค้าที่เกิดจากการก้าวทัน Lifestyle ที่เปลี่ยนตลอดเวลาของคนรุ่นใหม่ โดยจะเน้นการใช้เทคโนโลยีลํ้าสมัยทางด้านการเรียนรู้ Data เช่น AI หรือปัญญาประดิษฐ์เพื่อเรียนรู้พฤติกรรมผู้บริโภคหรือลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในร้านที่มีการผูกโยงกับแอพพลิเคชั่น จากพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้า โดยจะมีการทําการตลาดรูปแบบ Ai Marketing อย่างเข้าใจและรู้ใจ เพื่อตามใจลูกค้าในทุกความต้องการ ให้เกิดความรวดเร็วสะดวกสบาย และก้าวทัน Lifestyle ของคนรุ่นใหม่ ซึ่งได้มีการจับมือกับยักษ์ใหญ่ผู้นําทางด้าน Retail Technology ต่างๆ เช่น Microsoft, SCB เป็นต้น ส่งผลให้แพลตฟอร์มนี้ทําให้ CLASS CAFÉ เป็นทั้ง Co – Working Space ที่เป็น Co – Living และ Learning and working space ที่เป็นตัวเลือกแรกๆของลูกค้า และยังส่งผลต่อการเพิ่มศักยภาพการบริการอย่างต่อเนื่องไม่หยุดนิ่ง ซึ่งล่าสุด ผนึกกําลังกับผู้นําการสื่อสารโทรคมนาคมและบริการดิจิทัลครบวงจร อย่าง ทรู ดิจิทัล และ ทรู 5G ที่มีการเปิดตัวตู้จําหน่ายสินค้าอัจฉริยะ “ตู้ AI CLASS GO” Smart vending Machine ครั้งแรกในไทย

“ตู้จําหน่ายสินค้าอัจฉริยะ AI CLASS GO จะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในยุคใหม่ในสังคมไร้เงินสด ซึ่งเหมาะสําหรับยุคนี้ ที่ต้องเผชิญการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพียงลูกค้าหยิบสินค้าออกจากตู้ Ai CLASS GO เครื่องจะสามารถตรวจจับได้ว่าลูกค้าทำการหยิบสินค้าอะไรออกไปบ้าง ผ่านระบบเซนเซอร์ภายในตัวเครื่อง และทำการหักเงินค่าสินค้าอัตโนมัติ ผ่านทรูมันนี่วอลเล็ท หรือ แอปพลิเคชัน CLASS CAFÉ ที่รองรับบัตรเครดิต, QR Promptpay ทำให้ช่วยลดการสัมผัสกับธนบัตรที่เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค ถือเป็นการลดความเสี่ยงติดเชื้อ ซึ่งเราเชื่อมั่นว่า ตู้ Ai CLASS GO จะช่วยดันยอดขายสินค้าในกลุ่มเครื่องดื่มบรรจุขวดให้สูงขึ้นหลังจากประสบความสําเร็จในการพัฒนาและจําหน่ายสินค้าเครื่องดื่มบรรจุขวดในช่วงวิกฤตโควิด-19 ระลอกแรกเมื่อปี 2563 ที่ผ่านมา”

ขณะที่ เอกราช ปัญจวีณิน กรรมการผู้จัดการ ธุรกิจดิจิทัลโซลูชัน บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด หนึ่งในกลุ่มธุรกิจของ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE เปิดเผยว่า ทรู ดิจิทัล โซลูชันส์ ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาด้วยการนำศักยภาพการบริการดิจิทัลแบบครบวงจรของกลุ่มทรู พร้อมความเชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์ข้อมูลเข้ามาช่วยเสริมประสิทธิภาพแพลตฟอร์ม CLASS GO โดยนวัตกรรมตู้ AI CLASS GO จากทรู ดิจิทัล จะเสริมศักยภาพธุรกิจค้าปลีก สร้างประสบการณ์ในการซื้อสินค้าแบบ Grab-and-Go ที่ง่าย สะดวก รวดเร็ว และไม่ต้องใช้เงินสด

ขณะเดียวกันการที่เครือข่าย True 5G มีความแข็งแกร่งด้านศักยภาพของการให้บริการด้วยพันธมิตรในระบบนิเวศของกลุ่มทรู (True Ecosystem) ไม่ว่าจะเป็นองค์กรธุรกิจชั้นนำในแวดวงเทคโนโลยี สตาร์ทอัพ และทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละอุตสาหกรรม มาช่วยคัดสรรและพัฒนาโซลูชันที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการใช้งานผ่านแพลตฟอร์มต่างๆของแต่ละองค์กรตลอดจนความพร้อมของดิจิทัลแพลตฟอร์มและดิจิทัลคอนเวอร์เจนซ์ของกลุ่มทรู ที่ผสานเทคโนโลยีกับความสามารถเชิงดิจิทัล ทั้ง IoT, AI, Blockchain, Data Analytics , Cyber Security และ Cloud Systemรวมถึงเครือข่ายพันธมิตรผู้นำนวัตกรรมระดับโลก ร่วมยกระดับความสามารถในการแข่งขันและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานให้ภาคธุรกิจในประเทศไทย ซึ่งจากการใช้กล้องวีดีโอในการประมวลผลด้วยระบบ Ai ที่จะส่งข้อมูลผ่านเครือข่ายเทคโนโลยี 5G ในการเชื่อมโยงระบบบริหารจัดการสินค้า ช่วยให้สามารถตรวจสอบยอดขายสินค้าในตู้ AI CLASS GO ที่ตั้งอยู่ในหลากหลายสถานที่ได้พร้อมกันแบบเรียลไทม์ผ่านแดชบอร์ดของฝ่ายโลจิสติกส์ ซึ่งสามารถดูข้อมูลได้ทั้งบนสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ พร้อมมีระบบแจ้งเตือนเมื่อสินค้าในตู้ใกล้หมด ให้เข้ามาเติมสินค้าได้อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนมีการจัดเก็บข้อมูลในรูปแบบรายงาน พร้อมการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างเป็นระบบ ช่วยให้ CLASS CAFÉ สามารถเรียนรู้ความต้องการและพฤติกรรมลูกค้าผ่าน AI และวางแผนการตลาดแนวใหม่ในรูปแบบ AI Marketing อย่างเข้าใจตรงกับความต้องการของลูกค้าแต่ละคนแต่ละกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายยิ่งขึ้น เช่น การออกโปรโมชั่นให้ลูกค้าในแบบเฉพาะเจาะจงผ่านจอ LED ที่ตู้ได้อย่างแม่นยำ ช่วยเพิ่มโอกาสและยอดขายได้มากขึ้น ซึ่งมั่นใจว่า ตู้ AI CLASS GO จะมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจแก่ลูกค้าของ CLASS CAFÉ ได้อย่างดี

ด้าน “พิรุณ ไพรีพ่ายฤทธิ์ หัวหน้าคณะทำงานและกรรมการยุทธศาสตร์ 5G บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น หรือ TRUE”  กล่าวเสริมว่า กลุ่มทรู มุ่งพัฒนาเครือข่ายอัจฉริยะทรู 5G ให้คนไทยได้สัมผัสประสบการณ์อัจฉริยะที่มีความสะดวกสบาย พร้อมขยายความร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจในทุกอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนการนำเทคโนโลยี 5G มาสร้างสรรค์นวัตกรรมสินค้าและบริการที่แตกต่างและใช้งานได้จริง โดย ทรู 5G นำความพร้อมของเครือข่ายที่ครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย ให้สามารถเชื่อมต่อเข้าใช้งานตู้ AI CLASS GO สร้างประสบการณ์ให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการใน CLASS CAFÉ ในการซื้อสินค้าแบบวิถีใหม่ผ่านตู้จำหน่ายสินค้าแบบอัตโนมัติ และส่งเสริมสังคมไร้เงินสด

“คุณสมบัติที่โดดเด่นของเทคโนโลยี 5G ที่ให้ความเร็วสูง รองรับการเชื่อมต่อกับตู้ AI CLASS GO ได้จำนวนมากในเวลาเดียวกัน เพื่อเชื่อมโยงส่งข้อมูลเข้าสู่แพลตฟอร์ม CLASS GO แบบเรียลไทม์ ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลา ลดภาระในการตรวจสอบสินค้าในตู้ และเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ สะท้อนประสิทธิภาพของระบบ 5G ที่สามารถส่งมอบบริการ 5G ที่สร้างประโยชน์ในหลากหลายมิติ ทั้งในภาคธุรกิจเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจในยุคดิจิทัล และยกระดับการใช้ชีวิตวิถีใหม่ของคนไทยและสังคมไทยที่กำลังเข้าสู่วิถียุคใหม่ (Next Normal)”

มารุต ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่าในช่วงเริ่มต้นของปี 2564 นี้เราจะติดตั้งตู้ Ai CLASS GO ในจุดที่มีสาขาของร้าน CLASS CAFÉ ทั้งหมด เริ่มจาก CLASS CAFÉ Siam Innovation District สยามสแควร์วัน จากนั้นจึงขยายการติดตั้งไปสู่มหาวิทยาลัย โรงพยาบาล และตัวแทนจําหน่ายสินค้าของ CLASS CAFÉ โดยตั้งตั้งเป้าขยายการติดตั้งตู้ให้ครบ 100 ตู้ภายในปี 2564 ซึ่งในปีที่ผ่านมา บริษัท ฯ มีรายได้จากช่องทางดิจิทัล 50 เปอร์เซ็นต์และหน้าร้าน 50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งประเด็นหลักๆมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด ทำให้ห้างร้าน องค์กรต่างๆ ต้องล็อกดาวน์ตามคำสั่งของรัฐบาล และปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์การดำเนินชีวิตในแบบวิถีใหม่หรือ New Normal เพิ่มมากขึ้น เพื่อเว้นระยะห่างระหว่างกันมากขึ้น ทำให้ลูกค้าหันไปเน้นการซื้อสินค้าผ่านช่องทางดิจิทัล ซึ่งจากยอดขายในปีที่ผ่านมาเรามั่นใจว่า การขายสินค้าผ่านตู้ AI CLASS GO จะทําให้ปีนี้ยอดขายเรายังโตได้อีก เพราะตลาดกาแฟและเครื่องดื่มยังมีพื้นที่ขยายตัวได้อีกมาก และทางบริษัท ฯ ก็มีความพร้อมที่จะมองหา Trend Point เพื่อเข้าถึงลูกค้าในวงกว้างอยู่ตลอดเวลา โดยกระบวนการทํางานสําคัญของ CLASS GO PLATFORM ก็ทําให้บริษัทเรามีการปรับตัววางแผนธุรกิจได้อย่างตรงความต้องการของลูกค้ามากที่สุด ล่าสุดได้มีการเข้าไปคุยกับ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCPซึ่งเป็นผู้ให้บริการร้านกาแฟอินทนิล ในการที่จะเข้าไปวางตู้ Ai CLASS GO ในปั๊มน้ำมันของบางจากทั่วประเทศจำนวนกว่า 500 สาขา ซึ่งคาดว่าในปี 64 นี้จะสามารถวางตู้ Ai CLASS GO ในร้านกาแฟอินทนิลได้ไม่น้อยกว่า 100 ตู้ นอกเหนือจากแผนการขยายตู้เดิมที่เราวางไว้

ขณะที่ในส่วนของรายได้ปี 2564 บริษัทตั้งเป้าในการเติบโตของรายได้ไม่น้อยกว่า 1 เท่าตัวจากปีที่ผ่านมาหรือไม่ต่ำกว่า 150 ล้านบาท โดยรายได้ปี 2562 อยู่ที่ 70 ล้านบาท ขณะที่ในส่วนรายได้ปี 2563 จากสถานการณ์ของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้รายได้ของบริษัทปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 83 ล้านบาท

“ในส่วนแผนการขยายการลงทุน โดยปีนี้บริษัทได้มีการปรับเปลี่ยนระบบบัญชีแบบเดิมเป็นแบบใหม่ตามกฏข้อบังคับของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. กำหนดไว้ พร้อมทั้งได้มีการปรับปรุงระบบซอร์ฟแวร์ด้าน Cyber Security เพื่อให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดยคาดว่าจะสามารถยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อเข้าจดทะเบียนซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นได้ภายในปี 2565” มารุต กล่าวทิ้งท้าย





พิรุณ ไพรีพ่ายฤทธิ์ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น

เอกราช ปัญจวีณิน บ.ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด


กำลังโหลดความคิดเห็น