ฝ่ายวิเคราะห์บริษัทโบรกเกอร์หลายสำนักทำนายว่า ปีนี้นักลงทุนต่างชาติจะกลับเข้ามากระตุ้นให้ตลาดหุ้นคึกคัก แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ต่างชาติยังเทขายหุ้นอย่างหนัก ฉุดดัชนีหุ้นจนไม่สามารถตีฝ่าแนวต้านที่ระดับ 1,500 จุดได้
ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นอย่างต่อเนื่องรวมกว่า 5 แสนล้านบาท โดยปี 2561 ขายหุ้นสุทธิรวม 2.87 แสนล้านบาท ปี 2562 ขายหุ้นออกอีก 4.52 ล้านบาท และปี 2563 ขายหุ้นทิ้ง 2.64 แสนล้านบาท
ปี 2561 ต่างชาติขายหุ้นทิ้งมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ทำให้โบรกเกอร์ส่วนใหญ่คาดเดาว่า ในปี 2562 ต่างชาติจะกลับมาซื้อหุ้นคืน แต่ต่างชาติกลับขายต่อ และขายหนักอีกในปีที่ผ่านมา ปีนี้ไม่มีใครรับประกันได้ว่า ต่างชาติจะกลับมา และนับจากต้นปีต่างชาติยังเทขายหุ้นต่อ
โดยมียอดขายสุทธิสะสมรวม 18,099.78 ล้านบาท แรงขายของต่างชาติที่ยังไม่แผ่ว ส่งผลให้ดัชนีหุ้นไม่สามารถทะลุกลับขี้นไปยืนเหนือ 1,500 จุดได้อีกครั้ง แม้ว่าระหว่างชั่วโมงซื้อขายเมื่อวันพุธที่ผ่านมา จะขึ้นไปแตะที่ระดับ 1,500 จุดก็ตาม แต่ ถูกแรงขายทำกำไร จนลงมาปิดที่ระดับ 1,481.75 จุด
แม้ว่าดัชนีหุ้นเคยพุ่งทะยานขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดที่ระดับ 1,561 จุดเมื่อต้นปี แต่โอกาสที่จะกลับขึ้นไปใหม่คงไม่เกิดขึ้นในระยะสั้น เนื่องจากขาดปัจจัยสนับสนุนและตลาดหุ้นไทยไม่ได้ถูกเสียแล้ว เพราะมีค่าพี/อี เรโช เฉลี่ยประมาณ 29.57 เท่า ซึ่งถือว่าสูง ส่วนหุ้นกลุ่มต่างๆ ก็ปรับตัวขึ้นมาก
ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางด้านปัจจัยพื้นฐานที่ดีขึ้น ราคาหุ้นไม่น่าจะไปได้อีกไกล ดัชนีหุ้นแกว่งตัวอยู่ในระดับ 1,450-1,500 จุดมาพักใหญ่แล้ว เพราะนักลงทุนไม่เชื่อว่าในระยะสั้นดัชนีหุ้นจะพุ่งกลับไปที่ระดับ 1,550 จุด จึงชิงจังหวะขายทำกำไร เมื่อดัชนีหุ้นขยับขึ้นไปแตะระดับ 1,500 จุด
ข่าวดีชิ้นใหญ่ที่นักลงทุนรอคอยคือ การผลิตวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 เพราะถ้าผลิตมาได้จำนวนมากจนการแพร่ระบาดลดลง จะพลิกฟื้นตลาดหุ้นทั้งโลกกลับสู่ความสดใสอย่างเต็มรูปแบบ
ส่วนตลาดหุ้นไทยจะเข้าสู่ช่วงขาขึ้นรอบใหญ่ และประมาณการเป้าหมายดัชนีหุ้นปลายปีนี้ที่ตั้งไว้ระดับ 1,600 จุดอาจเป็นเป้าหมายที่ต่ำเกินไป ความหวังของนักลงทุนในปีนี้อยู่ที่ 2 ประเด็นหลักคือ ข่าวดีของวัคซีนฟ้องกัน “โควิด-19” และการกลับมาของนักลงทุนต่างชาติ
แต่สิ่งที่เห็นกันอยู่คือ ต่างชาติยังถล่มขายหุ้นไม่เลิก และแม้จะขายหุ้นอย่างหนักมาติดต่อกัน 3 ปีแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่า ปีนี้จะเลิกขาย และกลับมาไล่ซื้อหุ้นคืน ส่วน สถานการณ์ “โควิด-19” ก็ยังอยู่ในขั้นวิกฤตอยู่ เพราะการแพร่ระบาดระลอกใหม่ มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นวันละเกือบ 1 พันรายอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนั้น กลางเดือนนี้จะเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำให้ สถานการณ์การเมืองระอุขึ้น ส่งผลให้เกิดการชะลอการลงทุน เพื่อจับตาสถานการณ์การเมือง
ตลาดหุ้นยังถูกแวดล้อมด้วยข่าวร้าย ส่วนข่าวดีที่จะกระตุ้นตลาดหุ้นเป็นสิ่งที่ยังต้องเฝ้ารอคอยต่อไป
ในระยะสั้น หุ้นคงถูกจำกัดความเคลื่อนไหว ภายใต้กรอบ 1,450-1,500 จุดเท่านั้น ซึ่งนักลงทุนอาจวางกลยุทธ์ลงมาแถว 1,450 จึงเข้าช้อนซื้อ ขยับขึ้นไปใกล้ 1,500 จุด ชิงจังหวะขาย ทำกำไรในช่วงแคบๆ ไปพลางๆ ก่อน ระหว่างรอคอยข่าวดีชิ้นใหม่