ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 1 ก.พ.2564
-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (1 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะหุ้นแอมะซอนดอทคอมที่ทะยานขึ้นกว่า 4% ก่อนที่บริษัทจะเปิดเผยผลประกอบการในวันนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ที่ดีดตัวขึ้นหลังจากราคาโลหะเงินพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 ปี อันเนื่องมาจากคำสั่งซื้อของนักลงทุนรายย่อย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 30,211.91 จุด เพิ่มขึ้น 229.29 จุด หรือ + 0.76% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 3,773.86 จุด เพิ่มขึ้น 59.62 จุด หรือ +1.61% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,403.39 จุด เพิ่มขึ้น 332.70 จุด หรือ +2.55%
-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (1 ก.พ.) โดยฟื้นตัวขึ้นหลังจากร่วงลงในสัปดาห์ที่ผ่านมารุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือน ต.ค.2563 และได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ หลังนักลงทุนรายย่อยแห่ซื้อโลหะเงิน
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 400.77 จุด เพิ่มขึ้น 4.92 จุด หรือ +1.24%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,461.68 จุด, เพิ่มขึ้น 62.47 จุด หรือ +1.16%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,622.02 จุด เพิ่มขึ้น 189.15 จุด หรือ +1.41% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,466.42 จุด เพิ่มขึ้น 58.96 จุด หรือ +0.92%
-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (1 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ที่ปรับตัวขึ้น หลังนักลงทุนรายย่อยแห่ซื้อโลหะเงินซึ่งดันราคาขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 8 ปี
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,466.42 จุด เพิ่มขึ้น 58.96 จุด หรือ +0.92%
-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 2% เมื่อคืนนี้ (1 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า พายุหิมะทางฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ จะทำให้ความต้องการใช้พลังงานปรับตัวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้ปัจจัยบวกจากการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของซาอุดีอาระเบีย
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มี.ค. พุ่งขึ้น 1.35 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 53.55 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้น 1.31 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 56.35 ดอลลาร์/บาร์เรล
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (1 ก.พ.) โดยสัญญาทองคำดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 1,860 ดอลลาร์ เพราะได้แรงหนุนจากราคาสัญญาโลหะเงินที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 ปี อันเนื่องมาจากคำสั่งซื้อของนักลงทุนรายย่อย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้น 13.6 ดอลลาร์ หรือ 0.74% ปิดที่ 1,863.9 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน มี.ค. พุ่งขึ้น 2.504 ดอลลาร์ หรือ 9.3% ปิดที่ 29.418 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 19 ก.พ.2556
สัญญาแพลทินัมส่งมอบเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้น 59.6 ดอลลาร์ หรือ 5.52% ปิดที่ 1,138.8 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน มี.ค. พุ่งขึ้น 33.30 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 2,241.70 ดอลลาร์/ออนซ์
-- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (1 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากมุมมองที่ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มขยายตัว และสหรัฐฯ มีความสามารถที่จะฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้แก่ประชาชนได้ตามเป้า ขณะที่สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงหลังจากเยอรมนีเปิดเผยยอดค้าปลีกทรุดตัวลงในเดือน ธ.ค.
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.45% แตะที่ระดับ 90.9871
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2065 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2132 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3670 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3703 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 0.7640 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7641 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 104.94 เยน จากระดับ 104.73 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8968 ฟรังก์ จากระดับ 0.8905 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2843 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2802 ดอลลาร์แคนาดา
ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 30,211.91 จุด เพิ่มขึ้น 229.29 จุด, +0.76%
ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 3,773.86 จุด เพิ่มขึ้น 59.62 จุด, +1.61%
ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 13,403.39 จุด เพิ่มขึ้น 332.70 จุด, +2.55%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,622.02 จุด เพิ่มขึ้น 189.15 จุด, +1.41%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,466.42 จุด เพิ่มขึ้น 58.96 จุด, +0.92%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,461.68 จุด, เพิ่มขึ้น 62.47 จุด, +1.16%
ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 48,600.61 จุด, เพิ่มขึ้น 2,314.84 จุด, +5.00%
ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,896.32 จุด ลดลง 6.20 จุด, -0.21%
ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,566.40 จุด ลดลง 14.22 จุด, -0.90%
ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 6,067.54 จุด เพิ่มขึ้น 205.19 จุด, +3.50%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 28,892.86 จุด เพิ่มขึ้น 609.15 จุด, +2.15%
ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,505.28 จุด เพิ่มขึ้น 22.21 จุด, +0.64%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 3,056.53 จุด เพิ่มขึ้น 80.32 จุด, +2.70%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 6,663.00 จุด เพิ่มขึ้น 55.60 จุด, +0.84%
ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 6,922.80 จุด เพิ่มขึ้น 51.90 จุด, +0.76%
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 28,091.05 จุด เพิ่มขึ้น 427.66 จุด, +1.55%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 15,410.09 จุด เพิ่มขึ้น 271.78 จุด, +1.80%
ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,814.76 จุด, เพิ่มขึ้น 202.14 จุด, +3.06%