หุ้นไทยปิดพุ่ง 11.07 จุด เทคนิเคิลรีบาวนด์เช่นเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยมีแรงซื้อในกลุ่มพลังงานและแบงก์ สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้คาดตลาดคงแกว่งออกด้านข้าง
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวกเฉลี่ย 2-3% เช่นเดียวกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์สบวกราว 200 จุด หลังจากที่ดัชนีหุ้นดาวโจนส์เมื่อวันศุกร์ที่แล้วติดลบไปถึง 600 จุด มองเป็นการเกิดเทคนิเคิลรีบาวนด์หลังจากที่ตลาดได้ตอบรับปัจจัยลบไปมากแล้ว
ส่วนบ้านเราต้นภาคเช้าดัชนีฯ ย่อตัวลงจากความกังวลเหตุการณ์รัฐประหารในพม่า ทั้งที่บ้านเราไม่ได้รับผลกระทบมากแต่ก็ได้รับ Sentiment เชิงลบ ต่อมา ดัชนีฯ ก็สามารถรีบาวนด์กลับขึ้นมาได้จากแรงซื้อกลับหุ้นใหญ่หลังจากปรับตัวลงไปมากแล้วในช่วงก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ราคาน้ำมันในช่วงบ่ายนี้ปรับตัวขึ้นหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงาน และยังได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มแบงก์ด้วย นำโดย KBANK ที่ขึ้นมานำตลาด
อย่างไรก็ดี สัปดาห์นี้ให้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ ทั้งในสหรัฐฯ ยุโรป และจีน ได้แก่ PMI, ISM และตัวเลขการจ้างงาน ส่วนบ้านเราให้ติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 3 ก.พ.นี้ คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แต่ให้รอดูมุมมองทิศทางเศรษฐกิจไทยหลังรับผลกระทบการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่
ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,478.05 จุด เพิ่มขึ้น 11.07 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.75% มูลค่าการซื้อขาย 77,818.34 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (2 ก.พ.) นายวิจิตร กล่าวว่า ตลาดคงแกว่งออกด้านข้าง พร้อมให้แนวรับ 1,465 จุด ส่วนแนวต้าน 1,492 จุด