ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 29 ม.ค.2564
-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 600 จุดเมื่อวันศุกร์ (29 ม.ค.) และร่วงลงมากที่สุดในรอบสัปดาห์นี้นับตั้งแต่เดือน ต.ค.2563 โดยตลาดถูกกดดันจากรายงานผลการทดลองประสิทธิภาพวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ที่น่าผิดหวังจากบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) และภาวะผันผวนในตลาดที่เกิดจากการปั่นหุ้น GameStop ซึ่งเป็นหุ้นร้านจำหน่ายวิดีโอเกมชื่อดังในสหรัฐฯ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 29,982.62 จุด ร่วงลง 620.74 จุด หรือ -2.03%, ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 3,714.24 จุด ร่วงลง 73.14 จุด หรือ -1.93% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,070.69 จุด ร่วงลง 266.46 จุด หรือ -2.00%
-- -ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ (29 ม.ค.) โดยถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับการส่งมอบวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ที่ล่าช้าในสหภาพยุโรป หลังจากบริษัทผลิตวัคซีนปรับลดปริมาณการส่งมอบเนื่องจากมีปัญหาด้านการผลิต นอกจากนี้ การดิ่งลงอย่างหนักของตลาดหุ้นนิวยอร์กเนื่องจากความวิตกเกี่ยวกับการปั่นหุ้น GameStop ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นยุโรปด้วย
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 395.85 จุด ร่วงลง 7.54 จุด หรือ -1.87%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,399.21 จุด ร่วงลง 111.31 จุด หรือ -2.02%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,432.87 จุด ร่วงลง 233.06 จุด หรือ -1.71% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,407.46 จุด ร่วงลง 118.69 จุด หรือ -1.82%
-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ (29 ม.ค.) และปรับตัวลงรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่เดือน ต.ค.2563 เนื่องจากนักลงทุนกังวลกับความล่าช้าในการส่งมอบวัคซีนต้านโรคโควิด-19 และมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด ซึ่งส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,407.46 จุด ร่วงลง 118.69 จุด หรือ -1.82%
-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันศุกร์ (29 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันที่ลดลง หลังจากหลายประเทศดำเนินมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และความต้องการใช้น้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มี.ค. ลดลง 14 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 52.20 ดอลลาร์/บาร์เรล และในรอบสัปดาห์นี้ ลดลง 0.1% แต่เพิ่มขึ้น 7.6% ในเดือน ม.ค.
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือน มี.ค. เพิ่มขึ้น 35 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 55.88 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยในรอบสัปดาห์นี้เพิ่มขึ้นเกือบ 0.9% และเพิ่มขึ้น 7.9% ในเดือนม.ค.
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (29 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนพากันเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากไม่แน่ใจกับเสถียรภาพของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งร่วงลงอย่างรุนแรงจากความวิตกเกี่ยวกับการปั่นหุ้น GameStop นอกจากนี้ ความวิตกเกี่ยวกับความล่าช้าในการส่งมอบวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ซึ่งจะกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจนั้น เป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยด้วย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้น 9.1 ดอลลาร์ หรือ 0.49% ปิดที่ 1,850.3 ดอลลาร์/ออนซ์ แต่สัญญาทองลดลง 0.5% ในรอบสัปดาห์นี้ และลดลง 2.4% ในเดือนม.ค.
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน มี.ค. เพิ่มขึ้น 99.2 เซนต์ หรือ 3.83% ปิดที่ 26.914 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาแพลทินัมส่งมอบเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้น 6.8 ดอลลาร์ หรือ 0.63% ปิดที่ 1,079.2 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน มี.ค. ร่วงลง 113.90 ดอลลาร์ หรือ 4.9% ปิดที่ 2,208.40 ดอลลาร์/ออนซ์
-- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (29 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนพากันเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงลงอย่างหนักจากความวิตกเกี่ยวกับประสิทธิภาพวัคซีนโควิด-19 ของบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) และการปั่นหุ้น GameStop ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายวิดีโอเกมชื่อดังในสหรัฐฯ
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.13% แตะที่ 90.5800 เมื่อคืนนี้
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 104.73 เยน จากระดับ 104.23 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8905 ฟรังก์ จากระดับ 0.8877 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2802 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2795 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2132 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2131 ดอลลาร์, เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3703 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3740 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7641 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7694 ดอลลาร์สหรัฐ
ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 29,982.62 จุด ร่วงลง 620.74 จุด, -2.03%
ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 3,714.24 จุด ร่วงลง 73.14 จุด, -1.93%
ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 13,070.69 จุด ร่วงลง 266.46 จุด, -2.00%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,432.87 จุด ร่วงลง 233.06 จุด, -1.71%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,407.46 จุด ร่วงลง 118.69 จุด, -1.82%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,399.21 จุด ร่วงลง 111.31 จุด, -2.02%
ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 46,285.77 ลบ 588.59 จุด, 1.26%
ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,902.52 จุด ลดลง 17.78 จุด, -0.61%
ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,566.40 จุด ลดลง 14.22 จุด, -0.90%
ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,862.35 จุด ลดลง 117.04 จุด, -1.96%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 28,283.71 จุด ลดลง 267.06 จุด, -0.94%
ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,483.07 จุด ลดลง 22.11 จุด, -0.63%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,976.21 จุด ลดลง 92.84 จุด, -3.03%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 6,607.40 จุด ลดลง 42.30 จุด,-0.64%
ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 6,870.90 จุด ลดลง 46.70 จุด,-0.68%
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 27,663.39 จุด ลดลง 534.03 จุด, -1.89%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 15,138.31 จุด ลดลง 277.57 จุด, -1.80%
ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,612.62 จุด ลดลง 239.22 จุด, -3.49%