‘เกมสต็อป’ หุ้นตัวนำของ ‘ปรากฏการณ์นักลงทุนรายย่อยทำศึกเฮดจ์ฟันด์วอลล์สตรีท’ ราคากลับพุ่งขึ้นมาใหม่แล้ว ขณะหน่วยงานกำกับตรวจสอบสหรัฐฯ ประกาศจับตา
คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) หรือ ก.ล.ต.ของสหรัฐฯ ประกาศเมื่อวันศุกร์ (29 ม.ค.) ก้าวเข้าไปในสงครามระหว่างพวกนักลงทุนรายย่อยกับเหล่ากองทุนเฮดจ์ฟันด์วอลล์สตรีท โดยออกโรงเตือนทั้งพวกโบรกเกอร์และนักซื้อขายหุ้นผ่านสื่อสังคมว่า หน่วยงานกำกับตรวจสอบแห่งนี้กำลังเฝ้าจับตามองอย่างใกล้ชิดว่ามีการกระทำความผิดอะไรหรือไม่ในการซื้อขายซึ่งทำให้ตลาดวอลล์สตรีทขึ้นลงอย่างวือหวาหนักช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
ราคาหุ้นเกมสต็อป (GameStop) ซึ่งเป็นตัวเอกของกระแสความปั่นป่วนคราวนี้ กลับขยับสูงขึ้นไปใหม่อีกครั้งในวันศุกร์ (29) สร้างความได้เปรียบให้แก่พวกนักลงทุนรายย่อยในสัปดาห์ล่าสุดของการต่อสู้ซึ่งพวกเขามุ่งหวังที่จะเล่นงานเหล่าเฮดจ์ฟันด์ทุนหนาที่ได้ทำ “ชอร์ต” หุ้นเกมสต็อปเอาไว้ ทั้งนี้ การทำชอร์ตเช่นนี้หมายถึงการยืมหุ้นของเครือข่ายขายปลีกเครื่องเล่นเกมรายนี้มาปล่อยในตลาดด้วยความคิดว่ามันจะมีราคาตกลงไปอีก ซึ่งจะทำให้เมื่อซื้อหุ้นกลับคืนมาในอนาคต พวกตนจะมีกำไร
แต่ปรากฏว่า พวกนักลงทุนรายย่อยที่รวมตัวกันตามสื่อสังคม เช่น ห้อง “วอลล์สตรีทเบตส์” (Wallstreetbets) ของเว็บไซต์ “เรดดิต” (Reddit) ซึ่งมีจำนวนสมาชิกเกือบๆ 6 ล้านคนทีเดียว ได้ช่วยกันดันราคาหุ้นของเกมสต็อป ตลอดจนพวกหุ้นของบริษัททำนองเดียวกัน นั่นคือ กิจการอยู่ในช่วงขาลงและถูกพวกเฮดจ์ฟันด์หวังกำไร ไปทำ “ชอร์ต” กันไว้ เมื่อเป็นเช่นนี้จึงทำให้เฮดจ์ฟันด์เหล่านี้ตกอยู่ในฐานะลำบาก ต้องรีบหาหุ้นที่ยืมไว้มาคืนโดยเร็วเพื่อตัดขาดทุน และพลอยทำให้เกิดการเทขายหุ้นอื่นๆ ในพอร์ตเพื่อระดมเงินทุน
ราคาหุ้นเกมสต็อปพุ่งขึ้นมา 68% ในวันศุกร์ (29) หลังจากพวกแอปซึ่งทำหน้าที่แบบโบรกเกอร์ซื้อขายหุ้น เป็นต้นว่า แอป “โรบินฮู้ด” (Robinhood) ผ่อนผันข้อจำกัดในการซื้อขายหุ้นซึ่งกำหนดเอาไว้ลงมาบางส่วน หุ้นเกมสต็อปนั้นหล่นฮวบฮาบทีเดียวในวันพฤหัสบดี (28) ภายหลังเจอข้อจำกัดเหล่านี้ จนทำให้เกิดเสียงเรียกร้องให้เข้าตรวจสอบทั้งจากพวกหน่วยงานคุมกฎ และเสียงกราดเกรี้ยวไม่พอใจทั้งจากพวกเซเลบ และพวกนักการเมืองทั้งฟากพรรคเดโมแครตและฝ่ายพรรครีพับลิกัน
ทั้งนี้ โรบินฮู้ดยังได้แถลงในคืนวันศุกร์ (29) ว่า กำลังผ่อนผันเพิ่มการเปิดกว้างการซื้อขายหลักทรัพย์ 50 ตัว รวมทั้งเกมสต็อปด้วย จากที่ปัจจุบันอนุญาตให้เทรดได้ ทว่า ภายใต้เงื่อนไขข้อจำกัด
ทางด้าน คอสส์ คอร์ป (Koss Corp) บริษัทผู้ผลิตหูฟัง ซึ่งเป็นหุ้นที่อยู่ในสถานะเดียวกับ เกมสต็อปนั้น ในวันศุกร์ก็ทะยานขึ้นมา 53% เช่นกัน ถึงแม้หุ้นทั้ง 2 ตัวนี้ยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าช่วงพีกสูงสุด ซึ่งทำไว้ตอนช่วงต้นๆ ของสัปดาห์ที่ผ่านมา
แต่สำหรับพวกเฮดจ์ฟันด์ตลอดจนพวกนักหากำไรด้วยการทำ “ชอร์ต” รายอื่นๆ ต่างบาดเจ็บกันถ้วนหน้า ตามการคำนวณของเอส3 พาร์ตเนอร์ส (S3 Partners) การขาย “ชอร์ต” เกมสต็อป ทำให้เมื่อคำนวณจากราคาในตลาดแล้ว พวกเขาจะต้องสูญเสียเงินไปรวมประมาณ 19,750 ล้านดอลลาร์แล้วในปีนี้ กระนั้นก็ตามที หุ้นตัวนี้ยังคงอยู่ในสภาพที่ถูกทำชอร์ต อย่างสูงลิ่ว คิดเป็นมูลค่าราวๆ 11,200 ล้านดอลลาร์
ในวันศุกร์ (29) หน่วยงาน SEC ได้ออกคำแถลงร่วมจากรักษาการประธานและคณะผู้ว่าการ ซึ่งเป็นสิ่งที่นานๆ ทีจึงจะเกิดขึ้นสักครั้ง มีเนื้อหาระบุว่า กำลังทำงานร่วมกับพวกหน่วยงานกำกับตรวจสอบแห่งอื่นๆ ตลอดจนตลาดหลักทรัพย์ทั้งหลาย “เพื่อปกป้องนักลงทุน และเพื่อระบุตลอดจนเพื่อติดตามการกระทำความผิดที่อาจเกิดขึ้นมาได้” และจะ “พิจารณาทบทวนอย่างใกล้ชิดถึงการกระทำต่างๆ ... ซึ่งอาจทำให้บรรดานักลงทุนเสียประโยชน์” หรือกีดกันขัดขวางความสามารถของนักลงทุนทั้งหลายในการซื้อขายหุ้น
การประจันหน้ากันระหว่างพวกนักลงทุนรายย่อยกับเหล่าขาใหญ่นักขายชอร์ต มืออาชีพคราวนี้ ยังเรียกความสนใจต้องการเข้ามาตรวจสอบจากพวกสมาชิกรัฐสภา ทำเนียบขาว และอัยการใหญ่ของรัฐนิวยอร์กและของรัฐเทกซัส
ในวันศุกร์ (29) เคน แพกซ์ตัน อัยการใหญ่รัฐเทกซัส ได้ออกข้อเรียกร้องที่จะดำเนินการสอบสวนทางแพ่ง (civil investigative demand) ซึ่งเทียบได้กับการยื่นหมายเรียกมาให้ปากคำ รวม 13 หมายเรียกไปถึงโรบินฮู้ด และบริษัทอื่นๆ ซึ่งได้ออกข้อจำกัดในการซื้อขายหุ้น โดยเรียกสิ่งที่เกิดขึ้นมานี้ว่าเป็น “เรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนและความผิดพลาดที่น่าตกใจ”
ศึกคราวนี้ยิ่งเพิ่มความไม่แน่นอนให้แก่พวกตลาดหลักทรัพย์ที่อยู่ในอาการสุกงอมสำหรับขาลงกันอยู่ก่อนแล้ว มีรายงานว่า เฮดจ์ฟันด์บางแห่งถูกบังคับให้ขายหุ้นผลประกอบการดีเยี่ยมบางตัวที่ถืออยู่ในมือ รวมทั้งหุ้นแอปเปิลอิงค์ เพื่อระดมเงินหลายพันล้านดอลลาร์มาจ่ายตัดขาดทุนจากการไปทำ ชอร์ต เอาไว้
ขณะที่ทั้งเอสแอนด์พี 500 หุ้นอุตสาหกรรมดาวโจนส์ และแนสแดค 3 ดัชนีหุ้นหลักของวอลล์สตรัทต่างปิดติดลบราวๆ 2% ในวันศุกร์ (28) รวมทั้งต่างอยู่ในอาการไหลรูดแรงที่สุดในรอบสัปดาห์นับตั้งแต่สิ้นเดือนตุลาคมเป็นต้นมา
สำหรับหุ้นเกมสต็อป รวมตลอดทั้งสัปดาห์ได้ทะยานขึ้นไปเกือบๆ 400% ทว่า ถูกบังมิดทีเดียวจากคอสส์ ซึ่งลอยขึ้นไป 1,800% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้านหุ้นเอเอ็มซี เอนเตอร์เทนเมนต์ บริษัทเครือข่ายโรงภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่ที่ย่ำแย่หนักช่วงโควิด-19 ในวันศุกร์สูงขึ้น 54% และตลอดทั้งสัปดาห์ไต่ขึ้นไป 278%