xs
xsm
sm
md
lg

เรียลแอสเสทฯ แย้มดีลซื้อคอนโดฯ-แนวราบ เปิดโครงการใหม่ ดันพอร์ตโตหนุนเป้ารายได้แตะ 4 พันล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นายบดินทร์ธร จึงรุ่งเรืองกิจ
"เรียลแอสเสทฯ" เดินหน้าธุรกิจอสังหาฯ ปี 64 เน้นเจาะกลุ่มเรียลดีมานด์ ส่ง 4 โครงการใหม่ทำตลาด ทั้งแนวราบ-คอนโดฯ มูลค่ารวม 4,660 ล้านบาท เผยซื้อโครงการคอนโดฯ จากอารียาฯ หนุนแบ็กล็อกและรายได้ ผลตอบแทน (NP) 18-19% เผยยอดขายปีนี้ 2,350 ล้านบาท เติบโตขึ้น 15% เผยโฉมคอนโดฯ โครงการใหม่ "เดอะ สเตจ มายด์สเคป รัชดา-ห้วยขวาง"

นายบดินทร์ธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด แถลงข่าวระหว่าง Live สดผ่านเว็บไซต์ของบริษัทฯ ถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ว่า การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ในปี 2563 ทำให้การเปิดตัวโครงการใหม่ลดลงจากเดิม ซึ่งผู้ประกอบการมีการปรับแผนการดำเนินธุรกิจและเลื่อนการเปิดตัวโครงการใหม่ออกไป โดยเฉพาะโครงการกลุ่มคอนโดมิเนียม ส่งผลให้สต๊อกคงค้างในภาคธุรกิจอสังหาฯ ลดลงในระดับหนึ่ง ตั้งแต่ไตรมาส 2 /2563 รวมทั้งกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติลดลง และกลุ่มนักลงทุนที่เพิ่มหลักเกณฑ์ในการพิจารณาลงทุนมากขึ้น หรือชะลอการลงทุนเพื่อรอดูความชัดเจนของสถานการณ์ ส่งผลกระทบต่อเนื่องมาถึงต้นปี 2564 ทำให้บริษัทฯ พิจารณาถึงความรอบคอบในการดำเนินงาน เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทบทวนแผนงานรายเดือนและรักษากระแสเงินสด สร้างความมั่นคงของการดำเนินธุรกิจ

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา บริษัทฯพัฒนาโครงการมาแล้วทั้งสิ้นจำนวน 21 โครงการ มูลค่ารวม 30,500 ล้านบาท โดยมีโครงการที่อยู่ระหว่างการขายและจะเปิดขายในปีนี้รวมจำนวน 12 โครงการ มูลค่ารวม 8,000 ล้านบาท


สำหรับแนวโน้มในปี 2564 ทางบริษัทฯ ยังคงมั่นใจในทำเล และสินค้าของโครงการที่จะเปิดใหม่ในปีนี้ เน้นฐานลูกค้าเรียลดีมานด์เป็นหลัก โดยบริษัทฯ มีแผนพัฒนาโครงการใหม่ในปีนี้ จำนวน 4 โครงการ มูลค่ารวม 4,660 ล้านบาท แบ่งเป็น 3 โครงการแนวราบ มูลค่ารวม 2,510 ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียม จำนวน 1 โครงการ ได้แก่ โครงการ “เดอะ สเตจ มายด์สเคป รัชดา-ห้วยขวาง” มูลค่า 2,150 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 2.59 ล้านบาท เปิดรอบ Online Booking วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2563

นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่เทกโอเวอร์มาจาก บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ภายใต้แบรนด์ “MEGA Space 1&2” เป็นคอนโดฯ ไฮไรส์ จำนวน 2 อาคาร รวม 2,329 ยูนิต มูลค่าโครงการ 4,300 ล้านบาท การลงทุนดังกล่าวจะให้ผลตอบแทนระดับ 18-19% หรือมีตัวเลขประมาณ 900 ล้านบาท


ทั้งนี้ คาดว่าในปี 2564 จะมียอดขาย 2,350 ล้านบาท เติบโตขึ้น 15% ตัวเลขยอดโอนจะสามารถทำได้ 2,970 ล้านบาท และจากการเข้าซื้อโครงการ (takeover) จะสามารถทำให้บริษัทโตได้อย่างก้าวกระโดด โดยตั้งเป้าว่าในปี 2567 จะสามารถสร้างรายได้แตะ 4,000 ล้านบาท และมี Backlog ทั้งหมด 5,660 ล้านบาทระหว่างปี 2564-2567

"แนวโน้มการเติบโตของบริษัทฯ อาจจะไม่ใช่มีแต่การพัฒนาโครงการ แต่จะมีทั้งการเข้าซื้อโครงการ หากโครงการที่จะขายมีปัญหาเรื่องกระแสเงินสด ไม่ว่าจะเป็นโครงการคอนโดฯ หรือโครงการแนวราบ เราก็จะเข้าไปซื้อ รวมถึงการร่วมทุน (JV) กับพันธมิตร ทั้งนี้ ดีลการเข้าซื้อโครงการอาจจะไม่มีขนาดใหญ่หรือมูลค่าสูงเท่ากับโครงการ “MEGA Space 1&2 คาดว่าครึ่งแรกของปีนี้ จะเห็นดีลหลุดออกมาเพิ่มเติม"ม

อย่างไรก็ตาม ในประเด็นที่เกี่ยวกับความเกี่ยวข้องกับเรื่องการเช่าที่ดินแปลงบริเวณเพลินจิตนั้น ผู้บริหารไม่มีการชี้แจงแต่อย่างใด
กำลังโหลดความคิดเห็น