โบรกฯ มองแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์ขึ้นคล้ายภูมิภาค หลัง IMF เพิ่มคาดการณ์ ศก.โลก โดยคาดว่าปี 63 เศรษฐกิจโลกหดตัว 3.5% ซึ่งดีกว่าตัวเลขคาดการณ์ในเดือน ต.ค.ปีที่แล้วที่ระบุว่า เศรษฐกิจโลกหดตัว 4.4% และปี 64 คาดว่าเศรษฐกิจโลกเติบโต 5.5% สูงกว่าที่คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจะขยายตัว 5.2%
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่ง Sideway up คล้ายคลึงกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวก ตอบรับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจโลก โดยคาดว่าปี 63 เศรษฐกิจโลกหดตัว 3.5% ซึ่งดีกว่าตัวเลขคาดการณ์ในเดือน ต.ค.ปีที่แล้วที่ระบุว่า เศรษฐกิจโลกหดตัว 4.4% และปี 64 คาดว่าเศรษฐกิจโลกเติบโต 5.5% สูงกว่าที่คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจะขยายตัว 5.2% และคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 4.2% ในปี 65 ซึ่งมีโมเมนตัมเป็นบวก
นอกจากนี้ ยังคาดหวังเชิงบวกต่อการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่จะออกมาในคืนนี้ด้วย รวมถึงผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯ ก็มีผลเป็นบวกส่วนใหญ่ทำให้เป็นแรงหนุนต่อราคาหุ้น
ส่วนบ้านเราวันนี้คาดว่า DELTA จะอ่อนตัวลงหลังจากที่มีการขยายเวลาการใช้เกณฑ์ Cash Balance ต่อไปอีก ซึ่งเมื่อวานนี้ DELTA ขึ้นมา 50 บาท ก็มีผลต่อดัชนีฯ 5 จุด โดย DELTA มีผลต่อตลาดมาก พร้อมกันนี้ ให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยติดตามงบฯ ของ SCC ที่จะออกมาเร็วๆ นี้ และติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศ ซึ่งจับตาทางการจะออกมาตรการผ่อนคลายการคุมเข้มอย่างไร หากออกมาก็จะเป็นผลบวกต่อกลุ่มท่องเที่ยวให้ฟื้นตัวขึ้นได้ และการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในต้นเดือนหน้า ซึ่งคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หากอัตราดอกเบี้ยไม่ขึ้นก็จะเป็นผลบวกต่อกลุ่มไฟแนนซ์ให้ขยับขึ้นได้
อย่างไรก็ดี ตลาดก็มีปัจจัยลบจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ วงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ที่อาจจะล่าช้า และอาจจะถูกลดวงเงินด้วย และยังมีความเป็นห่วงการกลายพันธุ์ของโควิด-19 ในต่างประเทศ โดยเฉพาะในแอฟริกา และอังกฤษ จนทำให้สหรัฐฯ เริ่มอยากจะปิดประเทศเพื่อป้องกันการระบาด ส่วนยุโรปก็ล็อกดาวน์กันอยู่ แต่เชื่อว่าคงจะไม่กระทบเศรษฐกิจมาก
พร้อมให้แนวรับ 1,502-1,495 จุด ส่วนแนวต้าน 1,522-1,530 จุด