ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 20 ม.ค.2564
-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทำนิวไฮเมื่อคืนนี้ (20 ม.ค.) หลังจากนายโจ ไบเดน เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐค นที่ 46 อย่างเป็นทางการ ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าคณะรัฐบาลชุดใหม่จะเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและการสื่อสาร นำโดยหุ้นเน็ตฟลิกซ์ที่ทะยานขึ้นเกือบ 17% หลังบริษัทเปิดเผยจำนวนผู้ใช้บริการที่สูงกว่าคาดในไตรมาส 4/2563
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,188.38 จุด เพิ่มขึ้น 257.86 จุด หรือ +0.83% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,851.85 จุด เพิ่มขึ้น 52.94 จุด หรือ +1.39% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,457.25 จุด เพิ่มขึ้น 260.07 จุด หรือ +1.97%
-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (20 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับความหวังเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของสหรัฐฯ หลังจากที่นายโจ ไบเดน สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ นอกจากนี้ หุ้นหลายตัวของยุโรปปรับตัวขึ้นหลังการเปิดเผยแนวโน้มผลประกอบการที่สดใส
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 410.84 จุด เพิ่มขึ้น 2.92 จุด หรือ +0.72%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,628.44 จุด เพิ่มขึ้น 29.83 จุด หรือ +0.53%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,921.37 จุด เพิ่มขึ้น 106.31 จุด หรือ +0.77% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,740.39 จุด เพิ่มขึ้น 27.44 จุด หรือ +0.41%
-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับความหวังที่สหรัฐฯ จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น หลังจากนายโจ ไบเดน เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ และหุ้นกลุ่มเหมืองแร่นำตลาดปรับตัวขึ้น หลังการเปิดเผยคาดการณ์ผลประกอบการที่สดใส
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,740.39 จุด เพิ่มขึ้น 27.44 จุด หรือ +0.41%
-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ (20 ม.ค.) โดยได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่า รัฐบาลชุดใหม่ของสหรัฐฯ ภายใต้การนำของนายโจ ไบเดน จะเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะช่วยหนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันให้ฟื้นตัวขึ้น ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานสต๊อกน้ำมันดิบของหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันพรุ่งนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ. เพิ่มขึ้น 26 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 53.24 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือน มี.ค. เพิ่มขึ้น 18 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 56.08 ดอลลาร์/บาร์เรล
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (20 ม.ค.) ขานรับความหวังที่ว่า คณะรัฐบาลชุดใหม่ของสหรัฐฯ จะเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากนายโจ ไบเดน เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ก.พ. เพิ่มขึ้น 26.3 ดอลลาร์ หรือ 1.43% ปิดที่ 1,866.5 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค. 2564
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน มี.ค. เพิ่มขึ้น 44.6 เซนต์ หรือ 1.76% ปิดที่ 25.766 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาแพลทินัมส่งมอบเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้น 24.4 ดอลลาร์ หรือ 2.23% ปิดที่ 1,116.4 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน มี.ค. พุ่งขึ้น 38.20 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 2,403.20 ดอลลาร์/ออนซ์
-- ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (20 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าเทขายดอลลาร์ซึ่งเป็นสกุลเงินปลอดภัย และหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า ท่ามกลางความหวังเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของสหรัฐฯ หลังจากที่นายโจ ไบเดน สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.03% แตะที่ 90.4800 เมื่อคืนนี้
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 103.53 เยน จากระดับ 103.87 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2643 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2731 ดอลลาร์แคนาดา แต่เมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.8898 ฟรังก์ จากระดับ 0.8887 ฟรังก์
เงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.3645 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3631 ดอลลาร์ ขณะที่ดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7744 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7694 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.2107 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2125 ดอลลาร์
ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 31,188.38 จุด เพิ่มขึ้น 257.86 จุด, +0.83%
ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 3,851.85 จุด เพิ่มขึ้น 52.94 จุด, +1.39%
ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 13,457.25 จุด เพิ่มขึ้น 260.07 จุด, +1.97%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,921.37 จุด เพิ่มขึ้น 106.31 จุด, +0.77%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,740.39 จุด เพิ่มขึ้น 27.44 จุด, +0.41%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,628.44 จุด เพิ่มขึ้น 29.83 จุด, +0.53%
ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 49,792.12 จุด เพิ่มขึ้น 393.83 จุด, +0.80%
ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,998.77 จุด เพิ่มขึ้น 2.85 จุด, +0.10%
ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,601.54 จุด ลดลง 0.34 จุด, -0.02%
ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 6,429.76 จุด เพิ่มขึ้น 107.90 จุด, +1.71%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 29,962.47 จุด เพิ่มขึ้น 320.19 จุด, +1.08%
ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,583.09 จุด เพิ่มขึ้น 16.71 จุด, +0.47%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 3,114.55 จุด เพิ่มขึ้น 21.89 จุด, +0.71%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 6,770.40 จุด เพิ่มขึ้น 27.80 จุด, +0.41%
ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,051.00 จุด เพิ่มขึ้น 36.00 จุด, +0.51%
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 28,523.26 จุด ลดลง 110.20 จุด, -0.38%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 15,806.18 จุด ลดลง 71.19 จุด, -0.45%
ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,143.30 จุด ลดลง 55.15 จุด, -0.77%