คลังขยายระยะเวลาให้นายจ้างและลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สามารถหยุดหรือเลื่อนการนำส่งเงินเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นการชั่วคราว
น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้มีมาตรการขยายระยะเวลาการช่วยเหลือนายจ้างและลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ให้สามารถหยุดหรือเลื่อนการนำส่งเงินเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (กองทุนฯ) เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่งวดนำส่งเงินของเดือนมกราคม 2564 จนถึงงวดนำส่งเงินของเดือนมิถุนายน 2564 โดยนับอายุการเป็นสมาชิกกองทุนฯ ต่อเนื่อง และคงสมาชิกภาพไว้ จากเดิมที่ผ่อนผันให้จนถึงงวดนำส่งเงินของเดือนธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา ภายใต้หลักการและแนวปฏิบัติเดิม ทั้งนี้ เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของลูกจ้างและนายจ้างที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของของโรคโควิด-19 ในปัจจุบัน โดยมุ่งหวังให้ลูกจ้างที่เป็นแรงงานในระบบยังคงสถานะการเป็นสมาชิกกองทุนฯ และสามารถออมผ่านกองทุนฯ หลังจากที่สถานการณ์การระบาดของของโรคโควิด-19 ได้คลี่คลาย เพื่อเป็นหลักประกันรายได้และนำไปสู่ความมั่นคงทางการเงินเมื่อแรงงานในระบบเหล่านั้นผ่านพ้นวัยทำงาน
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้ออกประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กำหนดประเภทธุรกิจ ระยะเวลา และเงื่อนไขให้ลูกจ้างหรือนายจ้างหยุดหรือเลื่อนการส่งเงินสะสม หรือเงินสมทบเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพในท้องที่ที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ สาธารณภัย หรือเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2564 ซึ่งได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2564 และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม 2564 เป็นต้นไป
สำนักนโยบายการออมและการลงทุน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
โทร.0-2273-9020 ต่อ 3638, 3643, 3688
โทรสาร 0-2273-9987