"เด็มโก้" เปิดแผนปี 2564 ล่าสุดเซ็นสัญญางานใหม่โครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินของ กฟน. มูลค่ารวม 246.75 ล้านบาท ดัน backlog พุ่งแตะ 3,400 ล้านบาท คาดสร้างรายได้ยาวถึงปี 2565 ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเผยเดินหน้าขยายธุรกิจโรงไฟฟ้าเพิ่ม เตรียมความพร้อมเข้าร่วมประมูลโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน รวมทั้งลุยติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปภาคเอกชน
นายพงษ์ศักดิ์ ศิริคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เด็มโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ DEMCO เปิดเผยว่า ในปี 2564 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายที่จะเติบโตเพิ่มขึ้นจากปี 2563 โดยล่าสุดได้เซ็นสัญญาก่อสร้างกับการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ในโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินบริเวณโครงการส่วนต่อขยายตามแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง ถนนรัตนาธิเบศร์ มูลค่างานรวม 726.29 ล้านบาท แบ่งเป็นงานในส่วนของ DEMCO มูลค่า 246.75 ล้านบาท RSS 2016 มูลค่า 236.91 ล้านบาท และยิบอินซอย เอ็นเนอร์ยี่ มูลค่า 246.61 ล้านบาท โดยระยะเวลาการก่อสร้าง 720 วัน นับจากวันที่ได้รับหนังสือแจ้งให้เข้าทำงาน
ทั้งนี้ การรับงานโครงการของ กฟน.ในครั้งนี้ จะทำให้ในส่วนของธุรกิจรับเหมาฯ มีงานในมือรอรับรู้รายได้ (backlog) เพิ่มขึ้นเป็น 3,400 ล้านบาท โดยจะสร้างรายได้ระยะยาวต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2564-2565
ขณะที่ธุรกิจโรงไฟฟ้าอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าร่วมประมูลใบอนุญาตจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ ในโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน รวมทั้งที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เข้าไปศึกษาพื้นที่การลงทุนกับวิสาหกิจชุมชนในเบื้องต้นแล้ว โดยโครงการดังกล่าวจะเข้ามาเสริมในธุรกิจโรงไฟฟ้า จากปัจจุบันบริษัทฯ มีกำลังการผลิตจากโรงไฟฟ้าพลังงานลม ตามสัดส่วนการลงทุนอยู่ที่ 58 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ตามสัดส่วนการลงทุนประมาณ 3 เมกะวัตต์ ดังนั้น จะเห็นว่า ธุรกิจโรงไฟฟ้ามีแนวโน้มการเติบโตที่ดี และจะสามารถสร้างรายได้เพิ่มสนับสนุนการเติบโตในระยะยาวได้อย่างมั่นคง ตลอดจนสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้น
"ในปี 2564 ทิศทางการดำเนินธุรกิจน่าจะกลับมาดีขึ้น เนื่องจากมีงานในมือที่สร้างรายได้ และยังมีงานใหม่ที่จะเปิดให้ประมูลอีก โดยเฉพาะในส่วนของงานรับเหมาฯ ยังคงเน้นรับงานภาครัฐ ทั้งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ซึ่งมีงานที่จะเปิดให้ประมูลอีก มูลค่ากว่า 1-2 หมื่นล้านบาท รวมถึงยังมีงานประเภทที่เกี่ยวข้องกับการวางระบบไฟเบอร์ออปติก และท่อก๊าซของบริษัทเอกชน ที่จะมีการลงทุนในปี 2564 อีกด้วย" นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวอีกว่า บริษัทฯยังมองหาโอกาสในการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปให้แก่ภาคเอกชนมากขึ้น เพื่อสร้างรายได้เข้ามาเสริมให้แก่ธุรกิจหลัก โดยปัจจุบันบริษัทฯได้ติดตั้งไปแล้ว 3 แห่ง และคาดว่าในปี 2564 น่าจะมีโอกาสได้รับงานดังกล่าวมากขึ้นอีกด้วย