หุ้นปิดเช้าบวก 5.28 จุด กลุ่มแบงก์หนุนท่ามกลางรอศาล รธน.ตัดสินคดีนายกฯ สำหรับแนวโน้มการลงทุนในภาคบ่ายคาดตลาดยังน่าจะยืนในแดนบวกได้ จาก Fund Flow ที่จะเป็นตัวหลักในการกระตุก Sentiment การลงทุนเพิ่มขึ้น เนื่องจากเงินดอลลาร์สหรัฐยังอยู่ในทิศทางอ่อนค่า ขณะที่ค่าเงินใน Emerging Market ยังคงแข็งค่า ทำให้ตอบโจทย์ได้ว่า Fund Flow ยังไหลเข้ามา
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นขึ้นได้ในทิศทางเดียวกับตลาดในกลุ่ม TIP ที่บวกกันหมด ขณะที่ตลาดอื่นในภูมิภาคเอเชียเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบสลับกัน จาก Fund Flow ที่ยังไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ผ่านการปรับน้ำหนักการลงทุนของ MSCI แล้ว โดยวานนี้ต่างชาติซื้อสุทธิ โดยตลาดได้รับแรงดึงขึ้นจากหุ้นในกลุ่มแบงก์ที่ปรับขึ้นได้ค่อนข้างดี โดยวันนี้ฝ่ายวิจัยได้แนะนำให้ลงทุนหุ้นในกลุ่มแบงก์ โดยให้ KBANK และ TMB เป็น Top pick ของกลุ่ม
ขณะที่หุ้นในกลุ่มพลังงานจะย่อตัวบ้างในช่วงรอดูผลการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตร (โอเปกพลัส) ในสัปดาห์นี้ ซึ่งราคาน้ำมันได้ตอบรับลดทอนความคาดหวังไปบ้างแล้ว หลังจากที่สมาชิกในกลุ่มมีเสียงแตกพอควร ดังนั้น จึงต้องจับตาดูผลการประชุมจะสามารถตกลงกันได้หรือไม่
สำหรับปัจจัยการเมืองให้รอดูศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กรณีที่ใช้บ้านพักทหารหลังจากเกษียณอายุราชการแล้วในช่วงบ่ายนี้ นอกจากนี้ ให้ติดตามการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบศ. ที่จะมีการพิจารณาโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 ซึ่งหากมีการอนุมัติออกมาก็จะช่วยกระตุ้นการบริโภคได้พอควร
ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,426.15 จุด เพิ่มขึ้น 5.28 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.37% มูลค่าการซื้อขายราว 39,967 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายวิจิตร กล่าวว่า ตลาดยังน่าจะยืนในแดนบวกได้จาก Fund Flow ที่จะเป็นตัวหลักในการกระตุก Sentiment การลงทุนเพิ่มขึ้น เนื่องจากเงินดอลลาร์สหรัฐยังอยู่ในทิศทางอ่อนค่า ขณะที่ค่าเงินใน Emerging Market ยังคงแข็งค่า ทำให้ตอบโจทย์ได้ว่า Fund Flow ยังไหลเข้ามา พร้อมให้แนวรับ 1,420 จุด ส่วนแนวต้าน 1,440 จุด