หุ้นปิดเช้าพุ่ง 21.61 จุด รับแรงซื้อกลับหลังร่วงแรง โดยมีปัจจัยนอกประเทศหนุน สำหรับแนวโน้มการลงทุนในภาคบ่ายคาดตลาดมีโอกาสที่จะลดช่วงบวกได้หลังจากที่เช้านี้ขึ้นไปกว่า 20 จุด
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้รีบาวนด์จากแรงซื้อเก็งกำไรกลับเข้ามาหลังปรับตัวลงไปมากเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวก เช่นเดียวกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์สที่บวกราว 200 จุด ขานรับความคืบหน้าวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 เป็นลำดับ โดยบริษัทโมเดอร์นา ของสหรัฐฯ ที่ได้ยื่นขออนุมัติใช้วัคซีนต้านโรคโควิด-19 และนายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้เสนอชื่อนางเจเน็ต เยลเลน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ถือเป็นปัจจัยบวกให้กับตลาดด้วย
ส่วนผลการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร (โอเปกพลัส) ยังต้องรอติดตามดูต่อไป หลังจากที่ได้มีการเลื่อนการประชุมออกไป 2 วัน และบ้านเราก็มีปัจจัยที่จะต้องติดตามเรื่องศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กรณีที่ใช้บ้านพักทหารหลังจากเกษียณอายุราชการแล้วในวันที่ 2 ธ.ค.นี้ ซึ่งปัจจัยการเมืองในประเทศยังถ่วงตลาด
ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,429.92 จุด เพิ่มขึ้น 21.61 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +1.53% มูลค่าการซื้อขายราว 41,550 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ น.ส.ธีรดา กล่าวว่า ตลาดมีโอกาสที่จะลดช่วงบวกได้หลังจากที่เช้านี้ขึ้นไปกว่า 20 จุด พร้อมให้แนวรับ 1,410-1,400 จุด ส่วนแนวต้าน 1,435 จุด