เสนาฯ แจงเลื่อนแผนเปิดตัว 2 โครงการห้องชุด “สแลส” คอนโดราคาเริ่มต้น 1.2 ล้านบาท แบรนด์น้องใหม่ไปเปิดปี 64 เหตุสถานการณ์เศรษฐกิจไม่เอื้อ กังวลแบงก์เข้มปฏิเสธสินเชื่อจากปัจจัยลบการหดตัวของเศรษฐกิจ-กำลังซื้อลูกค้าหด ระบุหากปีหน้า ศก.ยังไม่ฟื้นจะส่งผลให้ดีมานด์ในตลาดหายไปบางส่วน ยันร่วมทุน “ฮันฮิว ฮันชิน” ยังปึ้ก ล่าสุด ผุดร่วมทุนแนวราบครั้งแรกภายใต้แบรนด์ “เวลล่า” ทาวน์โฮมย่านพุทธมณฑลสาย 3 เผย “นิช ไพรด์ เตาปูน-อินเตอร์เชนจ์” ยอดขาย 80% ก่อสร้างเสร็จพร้อมโอนแล้ว
ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) และกรรมการ บริษัทร่วมทุนระหว่าง เสนา และ ฮันคิว ฮันชิน กล่าวว่า ผลกระทบจากการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่ได้ส่งผลต่อยอดขายให้แย่มากนัก เพียงแค่ชะลอตัวลงไปบ้างเท่านั้น แต่สิงที่กังวล คือ การปฏิเสธสินเชื่อจากสถาบันการเงิน และปัญหาการหดตัวของเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งหากในปีหน้าเศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้นตัวคืนกลับมา จะส่งผลต่อดีมานด์ในตลาดจำนวนหนึ่งให้หายไปจากตลาด และจากสถานการณ์เศรษฐกิจที่ยังคงหดตัวอยู่ในปัจจุบัน ทำให้บริษัทตัดสินใจเลื่อนการเปิดตัวโครงการคอนโดฯ แบรนด์ สแลส (Slash) ซึ่งเป็นคอนโดฯ แบรนด์ใหม่ที่มีระดับราคาเริ่มต้น 1.2 ล้านบาท จำนวน 2 โครงการออกไปเปิดตัวในปี 64 เนื่องจากมองว่าภาวะตลาดในขณะนี้ยังไม่เหมาะกับแบรนด์ สแลส โดยเฉพาะปัญหาการปฏิเสธสินเชื่อของสถาบันการเงิน ในภาวะที่เศรษฐกิจหดตัว ซึ่งมีผลต่อกำลังซื้อของลูกค้า และการพิจารณาความสามารถในการผ่อนค่างวดของผู้ขอสินเชื่อที่อยู่อาศัย
ส่วนโครงการร่วมทุนกับ “ฮันคิว ฮันชิน” นั้นขณะนี้ในโครงการใหม่ๆ ยังไม่มีความคืบหน้าเนื่องจากผู้ร่วมทุนจากญี่ปุ่นยังไม่สามารถเดินทางเข้ามาศึกษาทำเลที่เสนาฯเสนอไปได้ แต่ในส่วนของโครงการที่ผ่านขั้นตอนของการศึกษาร่วมกันไปแล้วยังดำเนินการไปตามขั้นตอน โดยโครงการที่ผ่านการศึกษาร่วมกันและมีการพัฒนาพร้อมเปิดขายไปแล้วคือ โครงการเสนาคิทท์ บางบ่อ ซึ่งเป็นโครงการคอนโดราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท และโครงการล่าสุดคือ โครงการเวล่า พุทธมณฑลสาย 3 ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนแนวราบโครงการแรกของเสนาฯ และ ฮันคิว ฮันชิน โดยมีแผนจะเปิดขายในปลายเดือน พ.ย.นี้
ทั้งนี้ ในช่วง 11เดือนที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายแล้ว 7,000-8,000 ล้านบาท คิดเป็น 80-90% ของเป้าหมายการขายในปีนี้ ซึ่งในช่วงที่เหลือของปีนี้บริษัทจะยังคงเร่งยอดขายในส่วนของโครงการที่มีแผนก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 64 ซึ่งประกอบด้วยโครงการนิช โมโน เจริญนคร ซึ่งมียอดขายแล้ว 95% โครงการนิชโมโน บางนา ซึ่งมียอดขายแล้ว 70% และโครงการ นิชโมโน อิสรภาพ ซึ่งมียอดขายแล้ว 80% ขณะเดียวกัน ก็จะเร่งเปิดขายและโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดต่ำล้านบาท ภายใต้แบรนด์เสนาคิทท์ซึ่งสามารถใช้สิทธิในโครงการบ้านล้านหลังของรัฐบาลได้
ดร.เกษรา กล่าวถึง โครงการ นิช ไพรด์ เตาปูน-อินเตอร์เชนจ์ ว่า ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 80% ส่วนความคืบหน้างานก่อสร้างนั้นดำเนินการเสร็จสิ้นทั้งหมดแล้ว โดยลูกค้าเริ่มทยอยโอนกรรมสิทธิ์และเข้าอยู่แล้ว ซึ่งในส่วนของห้องชุดที่อยู่ระหว่างการขายอีก 20% เสนาฯ จะมีการจัดแคมเปญและนำเสนอจุดแข็งของโครงการเพื่อเร่งการตัดสินใจซื้อลูกค้าอย่างต่อเนื่องสำหรับ “นิช ไพรด์ เตาปูน-อินเตอร์เชนจ์” เป็นคอนโดร่วมทุน ซึ่งตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 3 ไร่เศษ ติดรถไฟฟ้าสถานีเตาปูน ถนนประชาราษฎร์ สาย 2 เป็นคอนโดมิเนียมสูง 38 ชั้น 1 อาคาร มาพร้อมกับที่อยู่อาศัยระดับพรีเมียมทั้งหมด 742 ยูนิต พร้อมอาคารพาณิชย์สูง 2 ชั้น 1 อาคาร โดยมีให้เลือก 3 แบบ คือ แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 28-32 ตารางเมตร แบบ 1 ห้องนอนพลัส ขนาด 34.50 ตารางเมตร และแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 49 ตารางเมตร ราคา 3.39 ล้านบาท รวมมูลค่าโครงการ 3,400 ล้านบาท
โดยโครงการนิช ไพรด์ เตาปูน-อินเตอร์เชนจ์ นี้เกิดจากแนวคิดญี่ปุ่น Geofit + และ My Select ผสมผสานที่ลงตัวกับพื้นที่ที่ใช่ สไตล์ที่ชอบ และภายใต้แนวคิด Made From Her การคิดละเอียดและใส่ใจคือจุดตั้งต้นของการพัฒนาโปรดักต์ และการบริการทุกโครงการของเสนา ฮันคิว ฮันชินยังผสมผสานและนำเอาแนวคิดแบบฉบับญี่ปุ่น Geo fit + มาปรับใช้ให้เข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภคในไทย ทำให้ไลฟ์สไตล์ของการใช้ชีวิตลงตัวยิ่งขึ้นและจะดีกว่าไหมถ้าวันนี้ชีวิตคุณสามารถเลือกเองได้ทุกอย่างไม่ว่าโลเกชันที่ดีที่สุด เชื่อมต่อรถไฟฟ้าได้ถึง 2 สาย (สายสีน้ำเงิน และสายสีม่วง) เลือกไลฟ์สไตล์กับพื้นที่ส่วนกลางได้ถึง 30 ชั้น พร้อมมีแบบห้องให้เลือก 3 แบบครบทุกฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ชีวิตได้ในทุกช่วงเวลาทั้งการทำงานและชีวิตส่วนตัวได้เต็มที่
สำหรับโครงการ “นิช ไพรด์ เตาปูน-อินเตอร์เชนจ์” ออกแบบอินทีเรียร์ตกแต่งภายในที่มากกว่าความสวยงาม แต่มี Choice ที่เป็นทางเลือกให้ลูกค้าเรียกคอนเซ็ปต์นี้ว่า My Select เลือกมุมที่ใช่ให้ห้องที่ชอบด้วยตัวเอง เป็นโซนส่วนตัวในห้องพักที่ลูกค้าสามารถเลือกรูปแบบได้ตามความต้องการตามไลฟ์สไตล์ของคุณทั้ง Relaxing Zone เหมาะสำหรับเพิ่มพื้นที่พักผ่อนให้คุณได้ชาร์จพลังในวันเหนื่อยๆ หรือใช้วันหยุดแสนสบายไปกับหนังสือเล่มโปรดบน Day Bed ขนาดพอเหมาะ หรือถ้าคุณเป็นเวิร์กกิ้งแมน-วูแมน สามารถเลือกแบบ WorkingZone ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์คุณได้กับพื้นที่ทำงานมุมสบายๆ ในที่อยู่อาศัยของคุณเอง
นิช ไพร์ด เตาปูน-อินเตอร์เซนจ์ เป็นโครงการแรกที่เดียวกับที่ให้พื้นที่ส่วนกลาง 30 ชั้น 7 วิลเลจ สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่นี่แยกพื้นที่ส่วนกลางและส่วนพักอาศัยภายในชั้นเดียวกันอย่างลงตัวพื้นที่ส่วนกลาง 30 ชั้น ถูกแบ่งออกเป็น 7 วิลเลจ หากคุณชื่นชอบหรือมีความต้องการส่วนกลางของตัวเองแบบไหนเพียงเลือกห้องในชั้นนั้นๆ ตามความต้องการได้ โดยทั้ง 7 วิลเลจสามารถตอบรับทุกด้านของไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็น Mini Theatre, Co-working Space, Sky Lounge, Yoga Room, Kid Club, Party Room, Executive MeetingRoom หรือ Recreation Games Room และมีส่วนกลางรวมอยู่ชั้น 38 ทั้ง ฟิตเนสลอยฟ้าและสระว่ายน้ำระบบเกลือแบบ Sky Infinity Edge ความยาวกว่า 50 เมตร นอกจากนี้ ทางโครงการยังมีร้านสะดวกซื้อ 7-11 พร้อมบริการลูกบ้านตลอด 24 ชั่วโมง และ “สตาร์บัคส์” ร้านกาแฟชื่อดังที่เปลี่ยนการดื่มกาแฟธรรมดาให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ทุกคน