หุ้นไทยปิดตลาดการซื้อขายวันที่ 20 พ.ย. ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน ก่อนปิดตลาดเพิ่มขึ้น 19.92 จุดหรือ +1.45 โดยปิดตลาดที่ 1,389.34 จุด มูลค่าการซื้อขายรวมทั้งสิ้นกว่า 90,575.97 ล้านบาท ชี้แรงซื้อของหุ้นกลุ่มธนาคารที่เข้ามาช่วยพยุงตลาด อีกทั้งการเจรจาด้านมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ของสหรัฐฯ จะเริ่มกลับมาเจรจากันอีกครั้ง แม้ยังมีปัจจัยลบจากการใช้มาตรการล็อกดาวน์ในหลายเมือง
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดการซื้อขายวันที่ 20 พ.ย.2563 ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน ก่อนปิดตลาดเพิ่มขึ้น 19.92 จุดหรือ +1.45 โดยปิดตลาดที่ 1,389.34 จุด มูลค่าการซื้อขายรวมทั้งสิ้นกว่า 90,575.97 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีขึ้นระดับสูงสุดที่ 1,390.37 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,368.20 จุด
หลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 1,029 หลักทรัพย์ ลดลง 663 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 433 หลักทรัพย์
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
KBANK ปิดที่ 106.00 บาท เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น 8.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 10,359.07 ล้านบาท
ADVANC ปิดที่ 175.50 บาท ลดลง 1.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 4,982.60 ล้านบาท
BBL ปิดที่ 121.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,650.01 ล้านบาท
SCB ปิดที่ 88.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.75 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,516.72 ล้านบาท
PTT ปิดที่ 38.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,547.93 ล้านบาท
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวกแต่ไม่มาก เช่นเดียวกับตลาดในยุโรปที่เทรดบ่ายนี้ก็บวกได้ไม่มาก ส่วนดาวโจนส์ฟิวเจอร์สก็ลดช่วงลบจากช่วงเช้า โดยตลาดบ้านเราปรับตัวขึ้นได้ดี คาดว่าจะเป็นผลจาก Fund Flow ยังไหลเข้ามาอยู่ และยังได้ Senitment จากมาตรการดูแลค่าเงินบาทของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ออกมาไม่ได้แรงมาก และไม่ได้สกัดเงินไหลเข้ามากนัก
ส่วนปัจจัยการเมืองในประเทศคงจะถ่วงตลาด แต่นักลงทุนก็เริ่มชินกับการชุมนุมทางการเมืองเพราะไม่ได้รุนแรงถึงขั้นแตกหักอะไร อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามการชุมนุมที่จะมีขึ้นในวันที่ 25 พ.ย.นี้ และติดตามทิศทาง Fund Flow อย่างต่อเนื่อง รวมถึงยังต้องติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 และพัฒนาการวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ด้วย นอกจากนี้ สิ้นเดือนก็ให้ติดตามการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัสด้วย
ทั้งนี้ แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า น.ส.ธีรดา กล่าวว่า ตลาดปรับตัวขึ้นไปมากทำให้อาจมีอัตราเร่งลดลงบ้าง โดย Upside ตลาดจำกัด และระวังแรงขายทำกำไรระหว่างทางด้วย โดยให้แนวรับ 1,330-1,350 จุด ส่วนแนวต้าน 1,400-1,410 จุด