xs
xsm
sm
md
lg

'เดซติเนชั่น แคปปิตอล' ดัน DESCAP I ปั้นกิจการโรงแรม เน้นการอนุรักษ์พลังงาน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


(จากซ้ายไปขวา) นายฐิติพัฒน์ ทวีสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) นายเจมส์ แคปแลน ประธานกรรมการบริหาร เดซติเนชั่น แคปปิตอล พีทีอี จำกัด และนายทศพร พรวัฒนศิริกุล ผู้อำนวยการ ฝ่ายทรัสต์กิจการกองทรัสต์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน)
"เดซติเนชั่น แคปปิตอล" ประกาศทิศทางกองทรัสต์ Descap I ซื้อธุรกิจโรงแรมในประเทศไทย โดยกองทุนนี้จะเข้าลงทุนในธุรกิจโรงแรม และออกแบบตามมาตรฐานอาคารอนุรักษ์พลังงาน รวมถึงจัดการธุรกิจบนหลักของความยั่งยืน โดยใช้แพลตฟอร์ม EDGE เป็นมาตรฐานในการประเมิน รวมทั้งจะก้าวเข้ามาสนับสนุนการทำงานเพื่อความยั่งยืนในด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมในระยะยาว ทั้งนี้ มาตรฐาน EDGE หรือ Excellence in Design for Greater Efficiencies คือมาตรฐานอาคารอนุรักษ์พลังงานที่ถูกออกแบบบนแนวคิดของอาคารสีเขียว และมีนวัตกรรมในการรับรองมาตรฐานความเป็นเลิศในการออกแบบอาคาร ปัจจุบันมาตรฐาน EDGE ได้ดำเนินการแล้วในกว่า 170 ประเทศทั่วโลก

เป้าหมายของกองทรัสต์ Descap I คือการระดมทุนเพื่อนำไปลงทุนต่อยอดในธุรกิจโรงแรมระดับ 4 ดาวขึ้นไปในย่านสำคัญต่างๆในประเทศไทย แต่ละโรงแรมจะนำมาตรฐาน EDGE มาใช้ เพื่อให้ได้รับใบประกาศรับรอง “มาตรฐานอาคารอนุรักษ์พลังงาน” ทั้งนี้ การเข้าซื้อกิจการของโรงแรมบางแห่งอาจมีการปรับโฉมแบรนด์ใหม่ และยกตำแหน่งทางการตลาด เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่นักลงทุนในรูปแบบของผลกำไร โดยกองทุน Descap I นี้ถือว่าเป็นกองทรัสต์กองแรกของประเทศไทย ที่ลงทุนในโรงแรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและกองทรัสต์กองนี้ถือเป็นการต่อยอด ประสบการณ์ธุรกิจของกลุ่มเดสติเนชัน ที่ดำเนินมากว่า 24 ปีในประเทศไทย ทั้งการเข้าซื้อกิจการ การบริหารและการขยายธุรกิจโรงแรมต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจไม่แน่นอน

“เดซติเนชั่น แคปปิตอล กับแนวทางในการลงทุนในโรงแรมที่ได้รับมาตรฐาน EDGE นั้น จะช่วยให้กองทุน Descap I มีความได้เปรียบในการแข่งขัน และจะสร้างความต่างให้แก่โรงแรมของเรา โดยจะมีกระบวนการคิดและจัดการเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน และปรับปรุงกระบวนการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในกิจกรรมต่างๆ ของโรงแรม” มร.เจมส์ เอ แคพแลน ประธานเจ้าหน้าที่บริษัท เดซติเนชั่น แคปปิตอล กล่าว

เดซติเนชั่น แคปปิตอล มองเห็นโอกาสในการปรับปรุงโรงแรมให้เดินหน้าสู่มาตรฐานอาคารอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม ด้วยการนำเทคโนโลยี Green EDGE และระบบการจัดการต่างๆ มาปรับใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสถานการณ์หลังการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งนี้ การนำมาตรฐานการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมมาปรับใช้จะช่วยสร้างความมั่นใจ และสร้างประสบการณ์ที่ดีในการใช้บริการของลูกค้า ทั้งในด้านความปลอดภัย และความสะอาดถูกหลักอนามัย

“สิ่งหนึ่งที่เราได้เรียนรู้ระหว่างช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 คือ เราได้เห็นว่าสิ่งแวดล้อม และธรรมชาติของเรากลับมาฟื้นตัวได้รวดเร็วแค่ไหน แม้จะผ่านการจัดการทรัพยากรต่างๆ ที่ไม่ถูกต้องแบบที่เคยเป็นมา การใช้ระบบมาตรฐานการจัดการ EDGE จะช่วยสนับสนุนธุรกิจในอุตสาหกรรมโรงแรม ให้เกิดการจัดการที่ดี บนพื้นฐานของการดูแลสภาพแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติให้ดียิ่งขึ้น และยังสร้างการตระหนักรู้ในเรื่องของสภาวะโลกร้อน และลดทอนปัจจัยที่ทำให้เกิดความเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อม” มร.แคพแลน กล่าวและว่า

“เราจะดำเนินโครงการจัดการทรัพยากรน้ำ ลดการใช้ ลดการสร้างขยะ และลดการใช้พลังงาน และพยายามลดการใช้พลาสติกให้ได้มากที่สุด”

เดซติเนชั่น แคปปิตอล วางแผนจะลงทุนในอาคารโรงแรมที่ปฏิบัติตามมาตรฐาน EDGE บนความเชื่อที่ว่า การทำธุรกิจที่ดีไม่ใช่เพียงดูจากความสามารถในการคืนทุนในระยะเวลาอันสั้น หากแต่การได้รับการยอมรับจากนักลงทุน และทำให้พวกเขาก้าวเข้ามามีส่วนร่วมกับแนวทางปฏิบัติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม บนพื้นฐานของความยั่งยืน และยังประโยชน์แก่ชุมชนและสิ่งแวดล้อมโดยรอบ ก็ถือเป็นปัจจัยที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน

นวัตกรรมในการรับรองมาตรฐานความเป็นเลิศในการออกแบบอาคารเพื่อประสิทธิภาพสำหรับตลาดเกิดใหม่ของบรรษัทเงินทุนระหว่างประเทศ (IFC) ซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่มธนาคารโลก จะเป็นมาตรฐานหนึ่งที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์สามารถดำเนินกิจการบนแนวทางสีเขียว ที่ทำได้ง่าย รวดเร็ว และเป็นรูปธรรม

ด้าน นายพาชาญ คาปูร์ ผู้เชี่ยวชาญมาตรฐานอาคารอนุรักษ์พลังงานของบรรษัทเงินทุนระหว่างประเทศ (IFC) กล่าวว่า Descap I จะเป็นกองทุนโรงแรมแห่งแรกที่นำหลักการของ EDGE มาพิจารณาประกอบการลงทุน หรือเข้าซื้อกิจการ "Prashant Kapoor" ความสำเร็จของการสร้างมาตรฐานการรับรอง EDGE จะสร้างการเติบโตต่อไปพร้อมกับความพยายามที่จะปรับเปลี่ยนอาคารต่างๆ เพื่อหยุดยั้งการเปลี่ยนแปลงและปัญหาของสภาพภูมิอากาศในอนาคต
กำลังโหลดความคิดเห็น