สบาย เทคโนโลยี ปิดเทรดวันแรกต่ำจองที่ 1.87 บาท ลดลง 0.63 บาท จากราคาไอพีโอที่กำหนดไว้ 2.50 บาท คิดเป็นลดลง 25.20% มูลค่าซื้อขาย 947.85 ล้านบาท โบรกฯ ให้ราคาเป้าหมายเกือบ 4 บาท ผู้บริหารนำเงินไปใช้ตามแผน เล็งเข้าเทรดใน SET
หุ้น SABUY ของบริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) เข้าซื้อขายเป็นวันแรก เปิดตลาดพบว่าราคาหุ้นเท่ากับราคาจองซื้อไอพีโอคือ 2.50 บาท และปิดช่วงเช้าที่ราคา 2.08 บาท ลดลง 0.42 บาท หรือ 16.80% มูลค่าซื้อขาย 678.76 ล้านบาท ระหว่างวันราคาหุ้นปรับขึ้นไปสูงสุดที่ 2.62 บาท ต่ำสุดที่ 1.82 บาท เมื่อปิดตลาดราคาหุ้นอยู่ที่ 1.87 บาท ลดลง 0.63 บาทคิดเป็น 25.20% มูลค่าซื้อขาย 947.85 ล้านบาท
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯประเมินราคาเหมาะสมหุ้น SABUY ปี 2564 ที่ 4.00 บาท อิงวิธี PEG ที่ 0.8x (อิงกำไรช่วง 3-4 ปีข้างหน้าที่ขยายตัวสูงแต่จะค่อยๆ ลดลงในอนาคต) และ EPS growth (2563-2566) ที่ +37% CAGR ที่อิงจากธุรกิจที่ดำเนินอยู่ปัจจุบัน (ตู้เติมเงิน ตู้ขายสินค้า และศูนย์อาหาร) โดยยังไม่รวมมูลค่าเพิ่มจากธุรกิจ SBM ที่คาดว่าจะช่วยเพิ่มการเติบโตของกำไรในระยะยาว
โดยประเมินกำไรสุทธิปี 2563 ที่ 92 ล้านบาท (+59% YoY) และปี 2564 ที่ 143 ล้านบาท (+56% YoY) หนุนโดยรายได้รวมที่จะเพิ่มขึ้น +23%/+41% จากการเพิ่มจำนวนตู้เติมเงิน และตู้ขายสินค้าอัตโนมัติช่วงปี 2561-2565 CAGR +11%
บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ระบุในบทวิเคราะห์ฯ ประเมินราคาเป้าหมาย SABUY ด้วยวิธี GGM โดยใช้ Long term ROE ที่ 10%, COE 8%, LTG 6.5% ได้ 2.36 เท่าของ Forward BV64F ซึ่งอยู่ที่ 1.61 บาท จะได้ราคาเป้าหมายปี 64 ที่ 3.80 บาท มี upside จากราคา IPO ที่ 2.50 บาท ถึง 52%
ทั้งนี้ คาดกำไรปี 63 เติบโต 61.6% และเติบโตต่อเนื่องอีก 52.2% ในปี 64 คาดกำไรงวดไตรมาส 4/63 จะเพิ่มขึ้นจากงวด ไตรมาส 3/63 เล็กน้อย หนุนให้คาดรายได้ขายและบริการทั้งปี 63 อยู่ที่ 1.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% จากปีก่อน ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้น และค่าใช้จ่าย SG&A เพิ่มขึ้นไม่มาก เป็นผลให้คาดกำไรปี 63 อยู่ที่ 94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 61.6% คาดกำไรปี 64 จะเติบโต 52.2% มาอยู่ที่ 143 ล้านบาท จากแผนขยายศูนย์กระจายสินค้าอีก 2 แห่ง และจะมีรายได้และกำไรเพิ่มเติมจากธุรกิจ SBM ที่จะเริ่มให้บริการไตรมาส 1/64
นายชูเกียรติ รุจนพรพจี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SABUY เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ปี 64 จะเติบโตราว 20% ซึ่งเติบโตอย่างต่อเนื่องจากปีนี้ โดยภาพรวมลูกค้าใช้บริการตู้เติมเงินยังดีต่อเนื่อง ด้านตู้ขายสินค้าอัตโนมัติ (Vending Machine) ซึ่งยังมีสินค้าใหม่เข้ามาต่อเนื่อง ทั้งสินค้าหน้ากากอนามัย สายชาร์จ หูฟัง สินค้าจากแบรนด์นารายา สินค้าจากแบรนด์ซาบีน่า เป็นต้น ขณะที่การให้บริการธุรกิจระบบศูนย์อาหารยังเป็นที่ต้องการเพิ่มขึ้นด้วย ส่วนเงินที่ได้จากการระดมทุนจะใช้ขยายธุรกิจ คาดช่วยเสริมทิศทางของบริษัทให้เติบโตได้ตามเป้าหมาย
"ราคาหุ้นวันนี้แม้เปิดราคาในระดับเสมอจอง แต่อยากให้มั่นใจได้ว่าเราจะดำเนินงานตามแผนที่วางไว้และให้ มั่นใจว่าจะได้รับผลตอบแทนที่ดีขึ้นในปี 64 พร้อมกันนี้ เรามีแผนเข้าเทรดใน SET แต่อย่างไรก็ตาม เราต้องดูผลประกอบการสิ้นปี 63 ก่อน ซึ่งคาดว่าจะผ่านเกณฑ์ได้แน่" นายชูเกียรติ กล่าว