BPP มั่นใจผลงานปี 64 เติบโตโดดเด่น ขณะที่ผลการดำเนินงานโค้งสุดท้ายปีนี้สดใส หลังโรงไฟฟ้าหงสาเดินเครื่อง รับรู้ SLG ในจีน พร้อมเล็งซื้อโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ เพิ่ม ลั่นเงินสดเพียงพอ
นายกิรณ ลิมปพยอม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าผลประกอบการในปี 64 จะเติบโตอย่างโดดเด่นตามกำลังการผลิตไฟฟ้าที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกจำนวนกว่า 500 เมกะวัตต์ (MW)
โดยในช่วงครึ่งปีแรกของปีหน้า บริษัทจะมีโครงการโรงไฟฟ้าที่เตรียมทยอยจ่ายไฟเข้าระบบ (COD) เพิ่มอีกจำนวน 5 โครงการ ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินซานซีลู่กวง (SLG) ที่ประเทศจีน ขนาดกำลังการผลิตรวม 1,300 MW ซึ่งคิดเป็นกำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นราว 396 MW โรงไฟฟ้าพลังงานลมที่เวียดนาม จำนวน 2 โครงการ กำลังการผลิตรวม 68 MW และโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มที่ประเทศญี่ปุ่นอีกจำนวน 2 โครงการ กำลังการผลิตรวม 27 MW
แนวโน้มผลงานโค้งสุดท้ายของปีโตต่อเนื่อง
ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 4/63 บริษัทคาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องจากงวดไตรมาส 3/63 เนื่องจากโครงการโรงไฟฟ้าหงสา สามารถกลับมาเดินเครื่องได้เกินระดับ 80% แล้ว หลังจากที่ได้ดำเนินการปิดซ่อมบำรุงโรงที่ 3 ในช่วงก่อนหน้านี้ ประกอบกับคาดว่าจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าถ่านหินซานซีลู่กวง ที่ดำเนินการก่อสร้างตัวโรงงานและสายส่ง รวมถึงทดสอบระบบเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว โดยคาดว่าโรงไฟฟ้าดังกล่าวจะเริ่ม COD ได้ในช่วงปลายปีนี้
นอกจากนี้ ยอมรับว่าปัจจุบันบริษัทสนใจเข้าไปซื้อกิจการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางของบริษัทแม่อย่างบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU ที่ได้เข้าแหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ ก่อนหน้านี้ โดยมั่นใจว่าบริษัทยังมีกระแสเงินสดที่มีศักยภาพเพียงพอในการเข้าลงทุนในอนาคต รวมถึงบริษัทยังศึกษาแผนการเข้าซื้อกิจการ (M&A) เพิ่มเติมอีกหลายโครงการทั้งในประเทศญี่ปุ่น เวียดนาม และสหรัฐฯ