นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า โครงการคนละครึ่งที่ได้เปิดให้ประชาชนที่สนใจลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2563 มีผู้ลงทะเบียนรับสิทธิโครงการเต็มจำนวน 10 ล้านคนแล้ว เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2563 ซึ่งระบบจะทำการตรวจสอบและส่ง SMS แจ้งยืนยันสิทธิโดยเร็ว ทั้งนี้ สำหรับยอดลงทะเบียนที่ไม่ผ่านการตรวจสอบและยอดผู้ได้รับสิทธิที่ถูกตัดสิทธิจากการไม่ใช้จ่ายภายใน 14 วัน จะมีการรวบรวมมาเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนใหม่ต่อไป
นอกจากนี้ ความคืบหน้าล่าสุด ณ วันที่ 28 ตุลาคม 2563 เวลา 12.00 น. มีร้านค้าเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 4 แสนร้านค้า และมียอดการใช้จ่ายสะสม 1,255.44 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 626.97 ล้านบาท และภาครัฐร่วมจ่ายอีก 598.47 ล้านบาท ยอดใช้จ่ายเฉลี่ย 229 บาทต่อครั้ง และมีการใช้จ่ายครบทุกจังหวัด โดยจังหวัดที่มีการใช้จ่ายสะสมมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สงขลา นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และเชียงใหม่ ตามลำดับ
รองโฆษกกระทรวงการคลัง ร่วมกับนายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทย กล่าวย้ำว่า กระทรวงการคลังกับธนาคารกรุงไทย ในฐานะผู้ดูแลระบบของโครงการคนละครึ่งได้มีการประสานงานอย่างใกล้ชิดเพื่อติดตามตรวจสอบพฤติกรรมหรือธุรกรรมที่ผิดปกติ โดยธนาคารกรุงไทย ได้นำระบบการป้องกันการทุจริตในกิจกรรมที่เกี่ยวกับการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ตามมาตรฐานสากลมาสนับสนุนโครงการเพื่อความโปร่งใสและตรวจสอบได้ ซึ่งหากพบพฤติกรรมหรือธุรกรรมที่ผิดปกติ หรือมีการใช้จ่ายที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขโครงการจะมีการระงับการใช้แอปพลิเคชัน ตลอดจนการจ่ายเงินทั้งฝั่งร้านค้าและประชาชนทันที และหากตรวจสอบพบว่าการใช้จ่ายผิดเงื่อนไขโครงการจริงจะดำเนินการตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดและกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป จึงขอให้ประชาชนและร้านค้าโปรดอย่าหลงเชื่อการเชิญชวนตามโฆษณาผ่านช่องทางต่างๆ ในการช่วยดำเนินการโดยไม่มีการใช้จ่ายซื้อสินค้าจริงอย่างเด็ดขาด เพราะอาจตกเป็นเหยื่อในการสนับสนุนให้เกิดการกระทำความผิดซึ่งมีโทษตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องได้ ทั้งนี้ หากต้องการแจ้งเบาะแสการกระทำผิดเงื่อนไขโครงการสามารถส่งข้อมูลมาที่ halfhalf@fpo.go.th หรือ โทร.0-2273-9020 ต่อ 3697 3527 3548 3509