นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนคารกรุงไทย (KTB) กล่าวว่า ณ วันนี้ธนาคารยังไม่มีความจำเป็นที่จะออกตราสารเพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 1 แต่ก็ได้ศึกษาหลายแนวทางด้วยกัน และมีความพร้อมตลอดเวลาที่จะระดมทุนหากมีความจำเป็น รวมถึงติดตามสถานการณ์ต่างๆ อย่างใกล้ชิดเนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าโควิด-19 จะจบลงเมื่อไหร่ และขณะนี้ยังมีสถานการณ์ทางการเมืองเข้ามาแทรกอีกจึงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด และหวังว่าเหตุการณ์ทางการเมืองที่เข้าสู่ความเรียบร้อยเพื่อไม่ให้มาเป็นปัญหาแทรกซ้อน
"เชื่อว่าทุกธนาคารก็มีความพร้อมหากมีความจำเป็นต้องเพิ่มเงินกองทุน และธนาคารกรุงไทยเองก็เป็นธนาคารแห่งหนึ่งที่ต้องจับตาสถานการณ์ทุกด้านอย่างใกล้ชิด และศึกษาแนวทางต่างๆ ไว้เพื่อเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดหากมีความจำเป็นต้องดำเนินการใดๆ"
ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2563 ธนาคารกรุงไทยมีเงินกองทุนรวมที่ระดับ 19.17% โดยเป็นเงินกองทุนขั้นที่ 1 ที่ระดับ 15.36%
ส่วนแนวทางการบริหารจัดการภายหลังมาตราการพักชำระเงินต้น-ดอกเบี้ยสิ้นสุดลงในสิ้นเดือนนี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง และเร่งประสานทุกภาคส่วนเพื่อหาแนวทางที่เหมาะสม ซึ่งต้องคำนึงถึงการลดภาระให้ลูกค้าและประคองให้สามารถดำเนินธุรกิจได้ ในขณะเดียวกัน ก็ต้องคำนึงถึงทรัพยากรที่จำกัดด้วย ถ้าใช้โดยไม่จำกัดหรือพอเพียงก็จะเป็นระเบิดเวลาในภายหลังได้
