xs
xsm
sm
md
lg

สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 14 ต.ค.2563

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ (14 ต.ค.) หลังจากนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ยอมรับว่า ทำเนียบขาวและพรรคเดโมแครตอาจไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ได้ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พ.ย. นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการที่อ่อนแอของธนาคารรายใหญ่อย่างแบงก์ ออฟ อเมริกา และเวลส์ ฟาร์โก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 28,514.00 จุด ลดลง 165.81 จุด หรือ -0.58% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,488.67 จุด ลดลง 23.26 จุด หรือ -0.66% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,768.73 จุด ลดลง 95.17 จุด หรือ -0.80%

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (14 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่าการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นของโรคโควิด-19 จะทำให้มีการล็อกดาวน์มากขึ้น และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการทำข้อตกลงการค้าระหว่างอังกฤษและสหภาพยุโรปหลังการแยกตัว (Brexit) นั้น ได้ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการซื้อขายหุ้นด้วย

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.09% ปิดที่ 370.62 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,941.66 จุด ลดลง 5.94 จุด หรือ -0.12%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,028.06 จุด เพิ่มขึ้น 9.07 จุด หรือ +0.07% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,935.06 จุด ลดลง 34.65 จุด หรือ -0.58%

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (14 ต.ค.) เนื่องจากเงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้นกดดันหุ้นกลุ่มส่งออก ขณะที่ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการทำข้อตกลงการค้าระหว่างอังกฤษกับสหภาพยุโรป (EU) หลังการแยกตัว (Brexit) ถ่วงตลาดลงด้วย

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,935.06 จุด ลดลง 34.65 จุด หรือ -0.58%

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (14 ต.ค.) ขานรับรายงานที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดการผลิต ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานสต๊อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐฯ ซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย. เพิ่มขึ้น 84 เซนต์ หรือ 2.1% ปิดที่ 41.04 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 87 เซนต์ หรือ 2.1% ปิดที่ 43.32 ดอลลาร์/บาร์เรล

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นมายืนที่เหนือระดับ 1,900 ดอลลาร์ได้อีกครั้งเมื่อคืนนี้ (14 ต.ค.) เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำ นอกจากนี้ ความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งความไม่แน่นอนของการเลือกตั้งในสหรัฐฯ ยังเป็นแรงผลักดันให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 12.7 ดอลลาร์ หรือ 0.67% ปิดที่ 1907.3 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 26.6 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 24.395 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาแพลทินัมส่งมอบเดือน ม.ค. ลดลง 9.9 ดอลลาร์ หรือ 1.13% ปิดที่ 863.4 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 22 ดอลลาร์ หรือ 0.9% ปิดที่ 2,366.30 ดอลลาร์/ออนซ์

-- ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (14 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับทิศทางมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐฯ หลังจากนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ยอมรับว่า ทำเนียบขาวและพรรคเดโมแครตอาจไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ได้ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พ.ย.

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.16% แตะที่ 93.3865 เมื่อคืนนี้

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 105.10 เยน จากระดับ 105.49 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9131 ฟรังก์ จากระดับ 0.9145 ฟรังก์ แต่เมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นสู่ร่ะดับ 1.3145 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3140 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1750 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1744 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3023 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2933 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7166 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7153 ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 28,514.00 จุด ลดลง 165.81 จุด, -0.58%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 3,488.67 จุด ลดลง 23.26 จุด, -0.66%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 11,768.73 จุด ลดลง 95.17 จุด, -0.80%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,028.06 จุด เพิ่มขึ้น 9.07 จุด, +0.07%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,935.06 จุด ลดลง 34.65 จุด, -0.58%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,941.66 จุด ลดลง 5.94 จุด, -0.12%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 40,794.74 จุด เพิ่มขึ้น 169.23 จุด, +0.42%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,555.59 จุด ลดลง 12.06 จุด, -0.47%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,523.25 จุด ลดลง 1.95 จุด, -0.13%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,176.10 จุด เพิ่มขึ้น 43.53 จุด, +0.85%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 24,667.09 จุด เพิ่มขึ้น 17.41 จุด, +0.07%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,340.78 จุด ลดลง 18.97 จุด, -0.56%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,380.48 จุด ลดลง 22.67 จุด, -0.94%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 6,179.2 จุด ลดลง 16.5 จุด, -0.27%

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 6,387.40 จุด ลดลง 12.80 จุด, -0.20%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 23,626.73 จุด เพิ่มขึ้น 24.95 จุด, +0.11%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 12,919.31 จุด ลดลง 27.82 จุด, -0.21%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 5,925.30 จุด เพิ่มขึ้น 2.07 จุด, +0.03%


กำลังโหลดความคิดเห็น