บมจ.ธนพิริยะ รับลูกมาตรการรัฐ “คนละครึ่ง” และ “เพิ่มวงเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” ใน Q4/63 นี้ กระตุ้นกำลังซื้อช่วงไฮซีซันธุรกิจ หนุนยอดขายเติบโต ทั้งทางตรง และทางอ้อมอย่างมีนัยสำคัญ พร้อมเดินหน้าขยายสาขาต่อเนื่อง ตั้งเป้าสิ้นปี 63 ให้ได้ 32 สาขา จากปัจจุบันที่ 30 สาขา
นายธวัชชัย พุฒิพิริยะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภคในจังหวัดเชียงราย เปิดเผยถึงแนวโน้ม ผลประกอบการไตรมาส 3/2563 คาดจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง รับไฮซีซันธุรกิจจากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศของภาครัฐบาลแคมเปญ “ไทยเที่ยวไทย” ช่วยหนุนภาคการท่องเที่ยวกลับมาคึกคัก เป็นผลดีกับตัวธุรกิจ กอปรกับการขยายสาขาเพิ่มขึ้น เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างทั่วถึง โดยตั้งเป้าหมายขยายสาขา ณ สิ้นปี 2563 มีสาขารวมทั้งสิ้น 32 สาขา ในจังหวัดเชียงราย พะเยา และเชียงใหม่
นอกจากนี้ ภาครัฐบาลยังออกมาตรการช่วยเหลือด้านการอุปโภคบริโภค และกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชนผ่านโครงการ “เราไม่ทิ้งกัน” แจกเงิน 5,000 บาท/เดือน ต่อเนื่อง 3 เดือน โครงการ “คนละครึ่ง” ที่รัฐจะช่วยจ่าย 50% ไม่เกิน 3,000 บาท กำหนดเริ่มภายในไตรมาส 4/2563 และโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐคนละ 500 บาท/เดือน ต่อเนื่อง 3 เดือน เริ่มภายในไตรมาส 4/2563
โครงการดังกล่าวจะช่วยหนุนให้ยอดขายในครึ่งปีหลังปี 2563 เติบโตทั้งทางตรงผ่านธุรกิจค้าปลีก และทางอ้อมผ่านธุรกิจค้าส่ง รวมถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว คาดสนับสนุนรายได้ครึ่งปีหลังเติบโตกว่าครึ่งปีแรก
ด้านเภสัชกรหญิงอมร พุฒิพิริยะ รองกรรมการผู้จัดการ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ร้านธนพิริยะ” ปัจจุบันมีสาขารวมทั้งสิ้น 30 สาขา ประกอบด้วย สาขาที่อยู่ในจังหวัดเชียงรายจำนวน 24 สาขา จังหวัดพะเยา 4 สาขา และจังหวัดเชียงใหม่ 2 สาขา โดยมีการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการเข้ามาใช้บริการของลูกค้าได้อย่างทั่วถึง อีกทั้งมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐที่ออกมาช่วยเหลือประชาชน ทั้งจากการเพิ่มวงเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และมาตรการคนละครึ่งจะมีส่วนช่วยสนับสนุนให้ผลประกอบการของ TNP ช่วงครึ่งปีหลังเติบโตได้อย่างมีนัยสำคัญ และเป็นไปตามเป้าหมายรายได้ปีนี้ที่วางไว้จะเติบโต 10% จากปีก่อน