ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในเช้าวันนี้ ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดร่วงลงเมื่อคืน โดยได้รับแรงกดดันจากคำสั่งขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับความล่าช้าในการออกมาตรการเยียวยาผลกระทบโควิด-19 รอบใหม่ในสหรัฐฯ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯ ที่สูงกว่าการคาดการณ์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,225.78 จุด ลดลง 9.04 จุด, -0.28% ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 23,114.63 จุด ลดลง 120.84 จุด, -0.52% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 24,352.63 จุด เพิ่มขึ้น 39.09 จุด, +0.16% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 12,697.46 จุด เพิ่มขึ้น 5.71 จุด, +0.04% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,389.76 จุด ลดลง 6.72 จุด, -0.28% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,481.08 จุด ลดลง 11.01 จุด, -0.44% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,486.23 จุด ลดลง 3.89 จุด, -0.26%
ตลาดได้รับแรงกดดันจากรายงานข่าวที่ว่า สมาชิกพรรคเดโมแครตในวุฒิสภาสหรัฐฯ โหวตคว่ำแผนเยียวยาผลกระทบโควิด-19 รอบใหม่ที่นำเสนอโดยวุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกัน โดยทั้งสองฝ่ายยังคงมีความเห็นที่ขัดแย้งกันเกี่ยวกับขนาดและขอบข่ายของมาตรการดังกล่าว
นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ กล่าวเมื่อไม่นานมานี้ว่า พรรคเดโมแครตและรีพับลิกันมีจุดยืนที่แตกต่างกันเกี่ยวกับวงเงินของมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจรอบใหม่ โดยพรรคเดโมแครตเสนอวงเงินมากกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงแรก ก่อนที่จะลดลงมาเหลือ 2.2 ล้านล้านดอลลาร์ ในขณะที่พรรครีพับลิกันยืนยันวงเงินราว 1.3 ล้านล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก จำนวน 884,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 850,000 ราย ส่วนจำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องเพิ่มขึ้น 93,000 ราย สู่ระดับ 13.385 ล้านราย
