หุ้นไทยปิดลบ 3.50 จุด ทิศทางเดียวกับต่างประเทศ นักลงทุนขายล็อกกำไรจากหลายปัจจัยไม่แน่นอน สำหรับแนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้าคาดตลาดแกว่งไซด์เวย์
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าปรับตัวขึ้นไปตอบรับถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปล่อยอัตราเงินเฟ้อยืดหยุ่นขึ้น ทำให้เห็นแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยจะทรงตัวต่ำอีกนาน เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ แต่เนื่องจากยังมีหลายปัจจัยที่ไม่แน่นอน ทำให้นักลงทุนเลือกขายล็อกกำไรไว้ก่อน ส่งผลให้ตลาดภาคบ่ายปรับตัวลงมาอยู่ในแดนลบ
ทั้งนี้ เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบเล็กน้อย ส่วนตลาดในยุโรปเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบไม่มาก แต่อิงไปในทางลบมากกว่า ดาวโจนส์ฟิวเจอร์สก็ลดช่วงบวกลงมาเหลือ 100 กว่าจุด จากช่วงเช้าบวกไป 200 จุด ขณะที่ตลาดบ้านเราก็มีปัจจัยการเมืองในประเทศกดดันอยู่ด้วย ทำให้นักลงทุนเลือกขายทำกำไรออกมาก่อน
อย่างไรก็ดี สัปดาห์หน้าให้ติดตามการทยอยประกาศตัวเลข PMI ทั้งภาคการผลิตและภาคบริการทั่วโลก และติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจเดือน ก.ค.63 ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะแถลงในวันที่ 31 ส.ค.นี้
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,323.31 จุด ลดลง 3.50 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.26% มูลค่าการซื้อขาย 54,673.10 ล้านบาท ด้านประเภทนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 3,032.90 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 337.74 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,816.77 ล้านบาท และนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 1,121.62 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นายวิจิตร กล่าวว่า ตลาดฯ คงแกว่งไซด์เวย์ช่วงรอปัจจัยใหม่เข้ามา พร้อมให้แนวรับ 1,300 จุด ส่วนแนวต้าน 1,350 จุด