ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี กวาดรายได้จากการขายและการให้บริการ 15,256 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน หนุนภาพรวมการดำเนินงานครึ่งปีแรกขยายตัวแข็งแกร่ง พร้อมตั้งเป้าครึ่งปีหลังเติบโตต่อเนื่อง และมีกำไรสุทธิ 1,094 ล้านบาท เติบโต 305%
นายวีรสิทธิ สินเจริญกุล กรรมการบริหาร บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2563 (เมษายน-มิถุนายน 2563) ของบริษัทฯ สามารถสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากไตรมาสแรกที่ผ่านมา แม้ว่าภาพรวมอุตสาหกรรมยางธรรมชาติ (Natural Rubber : NR) มีการบริโภคชะลอตัวลงตามสภาวะเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรค COVID-19
โดยรายได้จากการขายและการให้บริการของบริษัทฯ ในไตรมาส 2/2563 อยู่ที่ 15,256 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,094 ล้านบาท เติบโต 305% จากช่วงเดียวกันเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยมาจากการที่บริษัทฯ สามารถเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในธุรกิจยางธรรมชาติจากปริมาณการขายสินค้าที่เพิ่มขึ้นตามเป้าหมาย ส่วนธุรกิจถุงมือยางภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ STGT ที่เพิ่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สามารถทำยอดขายเติบโตอย่างโดดเด่นจากปริมาณการขายสินค้าและราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยที่สูงขึ้น ประกอบกับได้ขยายกำลังการผลิตแล้วเสร็จเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 32,000 ล้านชิ้นต่อปี เพื่อตอบสนองความต้องการใช้ที่ขยายตัวไปยังอุตสาหกรรมต่างๆ เนื่องจากเป็นสินค้าที่เกี่ยวข้องกับสุขอนามัยที่สามารถใช้เพื่อป้องกันโรคระบาดได้ และยังมีแผนขยายกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2575 เพื่อรองรับดีมานด์จากทั่วโลกและการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้านสุขอนามัยของประชาชนทั่วโลกในยุค New Normal
ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2563 มีความสอดคล้องกัน โดยมีรายได้จากการขายและการให้บริการ 32,737 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 1,948 ล้านบาท เติบโต จากขาดทุนสุทธิที่ 358 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากบริษัทฯ สามารถเพิ่มปริมาณการขายยางธรรมชาติและผลิตภัณฑ์ถุงมือยางที่เป็นสินค้าขั้นปลาย (Downstream) ได้มากขึ้น
“เรามั่นใจว่าในปีนี้เป็นปีที่ดีของ STA โดยมีเป้าหมายสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง แม้ว่าภาพรวมอุตสาหกรรมยางธรรมชาติชะลอตัวจากภาพรวมเศรษฐกิจโลก แต่มั่นใจว่า STA จะสามารถสร้างผลการดำเนินงานที่ดีกว่าภาพรวมตลาด จากการใช้กลยุทธ์ Selective Selling และความต้องการใช้ถุงมือยางที่มีคำสั่งซื้อสินค้าล่วงหน้าเป็นจำนวนมาก” นายวีรสิทธิ กล่าว