บมจ.ทุนธนชาต (TCAP) แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ถึงผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/63 บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ ส่วนที่เป็นของบริษัท จำนวน 1,029 ล้านบาท ลดลงจากระดับ 1,899 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่งวด 6 เดือนแรกของปีนี้ มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัท มีจำนวน 5,345 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระดับ 3,915 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันปีก่อน
นายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ของ TCAP เปิดเผยว่า ในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ธุรกิจจำนวนมากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ TCAP ในฐานะที่เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจลงทุนก็ได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยมีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมลดลง เนื่องจากกำไรของบริษัทร่วมที่ TCAP ไปลงทุนปรับลดลง ตามภาวะความรุนแรงของการแพร่ระบาดและมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเข้มงวดของภาครัฐ แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทลูกที่สำคัญของ TCAP ทั้ง บล.ธนชาต ธนชาตประกันภัย รวมถึง บมจ.ราชธานีลิสซิ่ง (THANI) ยังมีผลการดำเนินงานอยู่ในเกณฑ์ที่ดี
ในขณะเดียวกัน TCAP ยังมีเงินสดคงเหลืออีกประมาณ 15,000 ล้านบาท เงินจำนวนดังกล่าว TCAP ยังไม่ได้นำไปลงทุน เนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบันยังมีความเสี่ยงค่อนข้างสูง คณะกรรมการ และฝ่ายจัดการจึงมีนโยบายที่จะให้ความสำคัญต่อการดูแลบริษัทลูกให้เข้มแข็ง ส่วนการลงทุนอื่นๆ คงต้องรอให้สถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายจึงจะพิจารณาการลงทุนที่เหมาะสมต่อไป
"จากการพิจารณาถึงเงินสดคงเหลือ และผลการดำเนินงานของบริษัทในครึ่งปีแรก รวมถึงคาดการณ์ผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง คณะกรรมการบริษัทยังมีความมั่นใจในการดำเนินธุรกิจของบริษัท ถึงแม้ว่าจะอยู่ในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอยจากผลกระทบของโควิด-19 คณะกรรมการจึงได้มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้แก่ผู้ถือหุ้น ในอัตราหุ้นละ 1.20 บาท ซึ่งเท่ากับอัตราเงินปันผลระหว่างกาลที่จ่ายของปีก่อน โดยมีกำหนดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในวันที่ 27 สิงหาคมนี้" นายสมเจตน์ กล่าว