คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ ครึ่งปีแรกรายได้รวม 562 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% ขณะที่กำไรสุทธิ 106 ล้านบาท เหตุยอดขายหม้อแปลงไฟฟ้า-ธุรกิจพลังงาน โซลาร์เซลล์ ยอดขายดีทะลุเป้าต่อเนื่อง ด้าน CEO เดินหน้าสั่งลุยธุรกิจทำการตลาดเชิงรุก จำหน่ายแผงโซลาร์เซลล์ ขยายฐานลูกค้าเพิ่ม ตอกย้ำปีนี้อัตราการเติบโตส่อแววเข้าเป้า 1,000 ล้านบาท เล็งต่อยอดขยายการลงทุนธุรกิจพลังงานทั้งในประเทศ และต่างประเทศเพิ่ม
นายพูลพิพัฒน์ ตันธนสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ QTC ผู้ผลิต จัดจำหน่าย และให้บริการหม้อแปลงไฟฟ้า เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2563 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม 562 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 502 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 12% และมีกำไรสุทธิจำนวน 106 ล้านบาท ทั้งนี้ เป็นผลจากแผนกลยุทธ์ทำการตลาดหม้อแปลงไฟฟ้า และธุรกิจพลังงาน โซลาร์เซลล์ ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ส่งผลให้มีความต้องการซื้อเข้ามาเพิ่มขึ้น ทำให้ยอดขายผลิตภัณฑ์โดยรวมปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังรับรู้รายได้จากธุรกิจไฟฟ้าของบริษัท คิวโซลาร์ 1 จำกัด ขนาด 8.6 MW ที่ปราจีนบุรีอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ แม้ว่าในช่วงไตรมาส 2/2563 ที่ผ่านมาจะเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ภาครัฐประกาศล็อกดาวน์ประเทศ ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบการขนส่ง รวมถึงการนำเข้าวัตถุดิบต้องมีการชะลอไปบ้าง แต่ด้วยการปรับกลยุทธ์ด้านบริหารจัดการภายในองค์กรเพื่อรับมือกับวิกฤตดังกล่าวได้ทัน จึงทำให้ภาพรวมของธุรกิจกระทบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“ไตรมาส 2/2563 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2563 บริษัทฯ มีรายได้รวม 324 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 88 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 236 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 37% และมีกำไรสุทธิจำนวน 74 ล้านบาท เมื่อเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 85%
โดย ณ สิ้นไตรมาส 2/2563 บริษัทฯ มียอดขายหม้อแปลงในมือ (Backlog) จำนวนกว่า 300 ล้านบาท แบ่งเป็นงานราชการ จำนวน 30 ล้านบาท งานเอกชน จำนวน 120 ล้านบาท และงานต่างประเทศ จำนวน 150 ล้านบาท ซึ่ง Backlog คาดว่าจะทยอยส่งมอบสินค้าได้อย่างต่อเนื่อง
นายพูลพิพัฒน์กล่าวถึงภาพรวมธุรกิจในครึ่งหลังปี 2563 มองว่าบริษัทฯ ยังมีอัตราการเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยทั้งปีคงเป้าหมายการเติบโตของรายได้ที่ระดับ 1,000 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ มีการปรับกลยุทธ์เชิงรุกในส่วนของธุรกิจเทรดดิ้ง โดยเฉพาะการจำหน่ายแผงโซลาร์เซลล์ ซึ่งบริษัทฯ ได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนจากบริษัท LONGI Solar Technology Co., Ltd. ผู้ผลิตแผงเซลล์แสงอาทิตย์แบบ Mono Crystalline Silicon อันดับหนึ่งของโลกในช่วงต้นปีที่ผ่านมา รวมทั้งการจำหน่าย Huawei Solar Inverter ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์แปลงไฟฟ้ากระแสตรง (DC) ให้เป็นไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) จากแผงโซลาร์เซลล์ รวมไปถึงการจำหน่าย DE BUSDUCT โดยล่าสุดบริษัทฯ ได้ทำการตลาดเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมเพิ่มขึ้น
ส่วนการประมูลงานของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) มูลค่ารวมประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาท คาดว่าเปิดประมูลในครึ่งปีหลัง และจะทยอยรู้ผลในช่วงไตรมาส 4/2563 โดยบริษัทฯ คาดว่าจะได้งานไม่ต่ำกว่า 10% ของมูลค่างาน รวมทั้งการทำการตลาดเพื่อการจำหน่ายหม้อแปลงไปยังต่างประเทศต่อเนื่อง
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารยังกล่าวทิ้งท้ายว่า แม้สถานการณ์ภาพรวมของเศรษฐกิจในปีนี้จะยังไม่มีอะไรที่ชัดเจนมากนัก แต่ในฐานะบริษัทเอกชน เรายังคงต้องศึกษาการลงทุนใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในส่วนของ QTC บริษัทฯ มองหาธุรกิจด้านพลังงานที่จะมีต่อยอดธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้าที่บริษัทฯ ดำเนินการอยู่แล้ว ซึ่งจะเป็นการลงทุนทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยตั้งเป้าผลตอบแทน ROE จะต้องไม่ต่ำกว่า 10% ถึงจะคุ้มค่าต่อการลงทุน