ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 30 ก.ค. 2563
-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (30 ก.ค.) หลังจากสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2 หดตัวรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 70 ปี นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับข่าวโดนัลด์ ทรัมป์ เสนอให้เลื่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกไปจากกำหนดเดิมที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 พ.ย. อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq ปิดตลาดในแดนบวก โดยได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ก่อนที่บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ซึ่งรวมถึงแอปเปิลและอัลฟาเบทจะเปิดเผยผลประกอบการ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,313.65 จุด ลดลง 225.92 จุด หรือ -0.85% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,246.22 จุด ลดลง 12.22 จุด หรือ -0.38% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,587.81 จุด เพิ่มขึ้น 44.87 จุด หรือ +0.43%
-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (30 ก.ค.) โดยได้รับผลกระทบจากการที่บริษัทจดทะเบียนในยุโรปเปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอเกินคาด, ภาวะเศรษฐกิจที่หดตัวของเยอรมนี และการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เสนอให้เลื่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากเดือน พ.ย. ปีนี้
ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 2.16% ปิดที่ 359.52 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,379.65 จุด ร่วง 442.61 จุดหรือ -3.45%, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,852.94 จุด ร่วง 105.80 จุดหรือ -2.13% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,989.99 จุด ร่วง 141.47 จุด หรือ -2.31%
-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (30 ก.ค.) โดยถูกกดดันจากการเปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทจดทะเบียนของอังกฤษ ขณะที่ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเลือกตั้งในสหรัฐฯ และการทรุดตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ถ่วงตลาดลงด้วย
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,989.99 จุด ร่วงลง 141.47 จุด หรือ -2.31%
-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงหลุดจากระดับ 40 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (30 ก.ค.) หลังจากสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ซึ่งรวมถึงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2 ที่หดตัวรุนแรงสุดในรอบกว่า 70 ปี นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั้งในสหรัฐฯ และทั่วโลกอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย. ร่วงลง 1.35 ดอลลาร์ หรือ 3.3% ปิดที่ 39.92 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนต์ส่งมอบเดือน ก.ย. ลดลง 81 เซ็นต์ หรือ 1.9% ปิดที่ 42.94 ดอลลาร์/บาร์เรล
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (30 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากราคาทองคำพุ่งขึ้นติดต่อกัน 9 วันทำการ ขณะเดียวกันนักลงทุนซึมซับข่าวธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยและให้คำมั่นว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำจนกว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวจากผลกระทบของโควิด-19
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค. ลดลง 9.9 ดอลลาร์ หรือ 0.5% ปิดที่ 1,966.8 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน ก.ย. ลดลง 95.9 เซ็นต์ หรือ 3.94% ปิดที่ 23.362 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาแพลทินัมส่งมอบเดือน ต.ค. ลดลง 45.9 ดอลลาร์ หรือ 4.79% ปิดที่ 912.6 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน ก.ย. ร่วงลง 126.30 ดอลลาร์ หรือ 5.6% ปิดที่ 2,134.90 ดอลลาร์/ออนซ์
-- ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (30 ก.ค.) หลังจากสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2 หดตัวรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 70 ปี นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับข่าวโดนัลด์ ทรัมป์ เสนอให้เลื่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกไปจากกำหนดเดิมที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 พ.ย.
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.49% แตะที่ 93.0219 เมื่อคืนนี้
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 104.82 เยน จากระดับ 105.03 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9096 ฟรังก์ จากระดับ 0.9138 ฟรังก์ แต่หากเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.3443 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3364 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1837 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1764 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3085 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2961 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7175 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7168 ดอลลาร์สหรัฐ
ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 26,313.65 จุด ลดลง 225.92 จุด, -0.85%
ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 3,246.22 จุด ลดลง 12.22 จุด, -0.38%
ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 10,587.81 จุด เพิ่มขึ้น 44.87 จุด, +0.43%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,379.65 จุด ลดลง 442.61 จุด, -3.45%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,989.99 จุด ลดลง 141.47 จุด, -2.31%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,852.94 จุด ลดลง 105.80 จุด, -2.13%
ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 37,736.07 จุด ลดลง 335.06 จุด, +0.88%%
ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,529.82 จุด ลดลง 43.63 จุด, -1.70%
ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,603.75 จุด ลดลง 7.67 จุด, -0.48%
ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,149.63 จุด เพิ่มขึ้น 38.51 จุด, +0.75%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 24,710.59 จุด ลดลง 172.55 จุด, -0.69%
ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,286.82 จุด ลดลง 7.73 จุด, -0.23%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,267.01 จุด เพิ่มขึ้น 3.85 จุด, +0.17%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 6,051.10 จุด เพิ่มขึ้น 44.70 จุด, +0.74%
ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 6,177.50 จุด เพิ่มขึ้น 49.50 จุด, +0.81%
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 22,339.23 จุด ลดลง 57.88 จุด, -0.26%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 12,722.92 จุด เพิ่มขึ้น 181.95 จุด, +1.45%
ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 5,928.45 จุด ลดลง 37.82 จุด, -0.63%