หุ้นไทยปิดร่วง 22.61 จุด เซตามตลาดต่างประเทศ หลังขาดปัจจัยชี้นำ กังวลงบฯ บจ.กดดัน สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้คาดตลาดหุ้นไทยมีโอกาสรีบาวนด์ทางเทคนิค
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงมากกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่มีการเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยตลาดที่ติดลบก็เฉลี่ย -0.5% เท่านั้น ขณะที่ตลาดในยุโรปที่เทรดบ่ายนี้ก็ปรับตัวลง หลังจากผิดหวังผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่ไม่มีมาตรการด้านเศรษฐกิจเพิ่มเติมออกมา และตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาส 2/63 ของเยอรมนีก็ติดลบ 10% มากกว่าตลาดคาดไว้ว่าจะติดลบ 9% ส่งผลให้ดาวโจนส์ฟิวเจอร์สปรับตัวลงไปด้วย และหุ้นไทยก็เซตามหลังขาดปัจจัยชี้นำในช่วงนี้
นอกจากนี้ ผลประกอบการงวดไตรมาส 2/63 ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหุ้นไทยก็ไม่ดีอยู่แล้ว กดดันให้เกิดแรงขายออกมาด้วย อย่างหุ้น AOT ที่ขยายเวลาให้กลุ่มคิง เพาเวอร์ เข้าประกอบกิจการดิวตี้ฟรีใน 4 สนามบินจากผลกระทบโควิด ทำให้หุ้น AOT ปรับลงแรงราว 4% ถ่วงตลาด 2.6 จุด และกลุ่มพลังงานก็ถ่วงตลาด 7 จุด หลังราคาน้ำมันในตลาดฟิวเจอร์สปรับตัวลงราว 1% ซึ่งหากมองที่กลุ่ม PTT จะเห็นได้ว่าไม่มีตัวไหนที่ผลประกอบการจะออกมาดี อย่างงบฯ PTTEP ที่ออกมาก็แค่ตามคาด ส่วนกลุ่มโรงกลั่นก็ไม่น่าจะดีเพราะค่าการกลั่นอยู่ในระดับต่ำ อีกทั้งปัจจัยการเมืองในประเทศก็รบกวนตลาดอยู่ด้วย
ทั้งนี้ คืนนี้ให้ติดตามตัวเลข GDP ของสหรัฐฯ งวดไตรมาส 2/63 ที่จะประกาศออกมา ซึ่งก็ยังมีโอกาสที่จะออกมาดีกว่าตลาดคาด มองจากที่ตัวเลข PMI ฟื้นตัวได้เร็วกว่าคาด และยังต้องติดตามผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 2/63 ต่อไป โดยสัปดาห์หน้าจะมีกลุ่มสื่อสาร, PTTGC จะประกาศงบฯ ออกมา
ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,315.74 จุด ลดลง 22.61 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -1.69% มูลค่าการซื้อขาย 67,115.59 ล้านบาท ด้านประเภทสถาบันขายสุทธิ 1,458.82 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 1,011.91 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,961.91 ล้านบาท และนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 4,432.65 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (31 ก.ค.) นายณัฐพลกล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสรีบาวนด์ทางเทคนิค โดยให้แนวรับ 1,306-1,310 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,320-1,325 จุด