กรรมการสมาคมโรงแรมไทย ประเมินการท่องเที่ยวในหัวหินจะพลิกฟื้นตัวได้เร็ว เหตุกลุ่มลูกค้าหลักคือ คนไทย จับตาโปรโมชันลดราคาห้องพักลากยาว เหตุการแข่งขันสูง เชนโรงแรมใหญ่เริ่มเปิดให้บริการ และรับกับโครงการเที่ยวปั่นสุข ของภาครัฐ ด้าน JLL ระบุ นักลงทุน และ กองทุนไพรเวท อิควิตี้ สนใจซื้อโรงแรมในหัวเมืองท่องเที่ยว
นายอุดม ศรีมหาโชตะ กรรมการสมาคมโรงแรมไทย ในฐานะกรรมการบริหาร บ้านทะเลดาว หัวหิน รีสอร์ท เปิดเผยถึงแนวโน้มการท่องเที่ยวว่า หลังจากจังหวัดได้ให้โรงแรมเปิดบริการในช่วงวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้นักท่องเที่ยวชาวไทย ได้หลั่งไหลเดินทางมาพักผ่อนในอำเภอหัวหินเป็นจำนวนมาก โดยในช่วงที่เปิดให้บริการ ทางรีสอร์ตได้จัดโปรโมชันส่วนลดราคาถึง 30-40% และคาดว่าจะคงแคมเปญราคาพิเศษไปถึงเดือนกันยายนหรือตุลาคม เนื่องจากในเดือนกรกฎาคมนั้น โรงเรียนหลายแห่งได้เปิดการเรียนการสอน และเชนโรงแรมใหญ่ในเดือน ก.ค.เริ่มเปิดให้บริการเป็นส่วนใหญ่ ทำให้จำนวนห้องพัก (ซัปพลาย) มีปริมาณมากกว่าความต้องการที่จะเข้าพักอาศัย จากในปัจจุบันที่มีโรงแรมเปิดให้บริการอยู่เพียง 70-80% ซึ่งการคงราคาพิเศษให้นานขึ้น ก็เพื่อรองรับโครงการ "เที่ยวปั่นสุข" ของภาครัฐที่จะออกมากระตุ้นให้คนไทยออกมาเที่ยวมากขึ้น
นายอุดม กล่าวถึงการบังคับใช้ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างว่า เดิมอิงกับภาษีโรงเรือนที่ 12.5% ของค่าเช่าห้องรวมรายปี ซึ่งเดิมทางรีสอร์ตจ่ายภาษีส่วนนี้ 3.3 แสนบาทต่อปี แต่ถ้าคำนวณในภาษีตัวใหม่แล้ว จะต้องเสียภาษีประมาณ 7-8 แสนบาทต่อปี ในอัตรา 0.3% จากราคาประเมินที่ดิน (เฉพาะปี 2562 ที่ผ่อนปรนให้หักส่วนต่างจากภาษีโรงเรือนได้) ซึ่งทางสมาคมฯ ได้มีการเสนอไปยังภาครัฐบาล อย่างเช่น ในหัวหินราคาประเมินมีมูลค่าสูง ขณะที่ด้วยข้อกฎหมายเรื่องสิ่งแวดล้อม ทำให้การก่อสร้างอาคารในบริเวณใกล้กับชายหาดไม่สามารถทำได้เต็มพื้นที่ เนื่องจากต้องปฏิบัติตามเกี่ยวกับข้อกำหนดสิ่งแวดล้อม
"เป็นไปได้หรือไม่ หากพื้นที่ใดอยู่ในการควบคุมสิ่งแวดล้อมแล้ว ควรมีอัตราการจัดเก็บภาษีใหม่อีกเกณฑ์ เพราะผู้ประกอบการ จะโดนเรื่องการใช้ประโยชน์ของที่ดินไม่ได้เต็มที่ ซึ่งตามหลักน่าจะไปคิดเรตเหมือนภาษีโรงเรือน หรือจะบวกเพิ่มประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ของ 12.5 เปอร์เซ็นต์ก็ได้ เพราะในภาวะปัจจุบันก็ได้รับผลกระทบเดือดร้อนกันหมด"